2 สะใภ้ราชวงศ์อังกฤษ ‘เคท-เมแกน’ ความเหมือนที่แตกต่าง

The Duchess of Cambridge (left) and Meghan Markle arriving to attend the Christmas Day morning church service at St Mary Magdalene Church in Sandringham, Norfolk. (Photo by Joe Giddens/PA Images via Getty Images)
การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในราชวงศ์วินด์เซอร์ของ “เมแกน มาร์เคิล” นักแสดงม่ายสาวชาวอเมริกันวัย 36 เจ้าสาวของ เจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 6 ที่เข้าพิธีเสกสมรสกันไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกจับตาจากผู้คนทั่วโลกว่าเธอจะมีบทบาทต่อราชวงศ์อังกฤษอย่างไรนับแต่นี้ไป และคงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หรือ เคท มิดเดิลตัน พระชายาพระชันษา 36 ของ เจ้าชายวิลเลียม หรือดยุกแห่งเคมบริดจ์ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ด้วยทั้งคู่ต่างเป็นสาวสามัญชนที่ได้มีโอกาสพบรักและแต่งงานกับเจ้าชายหนุ่มแห่งราชวงศ์วินด์เซอร์เหมือนกัน อีกทั้งยังมีความงามสูสี และมีอายุเท่ากันอีก

เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี และพระชายาของทั้งสองพระองค์ ได้รับฉายานามจากสื่อว่าเป็น แฟ็บ โฟร์หรือ “4 มหัศจรรย์” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ราชนิกุลรุ่นใหม่ ที่จะเปลี่ยนโฉมของราชวงศ์อังกฤษ

แต่ถึงกระนั้น สะใภ้หลวงทั้งสองก็มีความต่างกันตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่เข้าสู่ราชวงศ์อังกฤษ โดยเว็บข่าว cheatsheet.com ได้รวบรวมไว้ดังนี้

เริ่มตั้งแต่ การคบหาดูใจกัน ซึ่งคู่ของเจ้าชายวิลเลียมกับเคท มิดเดิลตัน ใช้เวลาคบหาดูใจกันนานถึง 8 ปี โดยเริ่มจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ค่อยๆ ก่อตัวเป็นความรัก กระทั่งมีการประกาศหมั้นกันเมื่อปลายปี 2553 แต่คู่ของเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน มาร์เคิล ใช้เวลาคบหาดูใจกันเพียงปีเศษ เจ้าชายแฮร์รีก็ขอเธอแต่งงานและมีการประกาศหมั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560

สถานที่ขอแต่งงาน เจ้าชายวิลเลียมทรงเอ่ยปากขอเคท มิดเดิลตัน แต่งงานที่ประเทศเคนยา ระหว่างทั้งสองไปเที่ยวที่นั่นด้วยกันเมื่อปี 2553 แต่คู่ของเจ้าชายแฮร์รี มีข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายที่ระบุว่า เจ้าชายแฮร์รีน่าจะเอ่ยปากขอเมแกน มาร์เคิล แต่งงานระหว่างพำนักอยู่ที่พระตำหนักน็อตติงแฮม คอทเทจ ที่ทั้งสองพำนักอยู่ด้วยกัน

วิธีขอแต่งงาน ก็แตกต่างกัน เจ้าชายวิลเลียมเคยเล่าให้คนสนิทฟังว่า พระองค์ทรงอยากให้เคทรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ทำให้ต้องใช้เวลาคบหาดูใจกันนานถึง 8 ปี พระองค์จึงทรงรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะเอ่ยถามเรื่องสำคัญนี้กับเคท ส่วนคู่ของเจ้าชายแฮร์รี มีข่าวว่าเจ้าชายหนุ่มทรงเลือกช่วงเวลาที่ได้อยู่กันตามลำพังที่พระตำหนักในช่วงเย็นวันหนึ่ง ซึ่งมาร์เคิลเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า แทบจะอดใจรอฟังให้เจ้าชายแฮร์รีพูดจบไม่ไหว และได้ตอบตกลงในทันที

ชุดที่ใส่ในวันประกาศการหมั้น เคทเลือกใส่ชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มเข้ากับสีไพลินของพระธำมรงค์หมั้น ส่วนมาร์เคิลเลือกใส่ชุดเดรสสีเขียว คลุมด้วยชุดโค้ทสีขาว ซึ่งชุดของมาร์เคิลแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนชอบความทันสมัย เมื่อเปรียบเทียบกับเคท ที่ดูมีความอนุรักษนิยม และเลือกทำตามประเพณีปฏิบัติมากกว่า

ในส่วนของ พระธำมรงค์หมั้น พระธำมรงค์หมั้นของเคทมีไพลินเม็ดใหญ่ล้อมเพชร เป็นพระธำมรงค์หมั้นเดิมของ เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ส่วนพระธำมรงค์หมั้นของมาร์เคิล เป็นเพชรเม็ดใหญ่ตรงกลางขนาบด้วยเพชรเม็ดเล็ก โดยพระธำมรงค์นี้เป็นเครื่องประดับส่วนตัวของเจ้าหญิงไดอานาเช่นกัน

ในแง่ของ คำครหา ข้อโต้แย้ง นั้น มาร์เคิลตกเป็นข่าวถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์ โดนคำครหามากกว่าเคท ว่าไม่เหมาะสมที่จะร่วมราชวงศ์วินด์เซอร์ โดยนับแต่พระราชวังเคนซิงตันแถลงข่าวหมั้น มาร์เคิลก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเคยแต่งงานแล้วหย่ามาก่อน โดยก่อนหน้านี้เธอเคยสมรสกับ เทรเวอร์ แองเกิลสัน โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเมื่อปี 2554 แต่สุดท้ายก็หย่าขาดจากกันไปในปี 2556 ก่อนจะมาพบรักกับเจ้าชายแฮร์รี นอกจากนั้นยังถูกวิจารณ์จากการที่เธอเป็นลูกครึ่งผิวสี เนื่องจาก นางดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ของเธอมีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งทำให้มาร์เคิลถูกครหาว่าไม่เหมาะสมที่จะเข้าเป็นสมาชิกของราชวงศ์วินด์เซอร์

สำหรับ สถานที่จัดพิธีเสกสมรส เจ้าชายแฮร์รีและมาร์เคิลเลือกจัดพิธีเสกสมรสกันที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ จุคนได้ราว 800 คน ซึ่งเล็กมากเมื่อเทียบกับมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่เจ้าชายวิลเลียมเข้าพิธีเสกสมรสกับเคท มิดเดิลตัน ที่รองรับแขกได้ถึง 2,000 คน

รายชื่อแขกรับเชิญ นั้น เนื่องจากทรงอยู่ในฐานะว่าที่ประมุขแห่งอังกฤษในอนาคต เจ้าชายวิลเลียมจึงจำเป็นต้องทรงเชิญราชวงศ์จากนานาประเทศและเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาร่วมพิธีเสกสมรสของพระองค์ แต่เจ้าชายแฮร์รีและมาร์เคิลมีแขกรับเชิญเป็นเพื่อนๆ และคนใกล้ชิดที่สนิทสนม ข้าราชบริพารในราชสำนัก รวมทั้งประชาชนทั่วไปซึ่งผ่านการคัดเลือกได้รับเชิญมาร่วมงาน ด้วยจำนวนแขกน้อยกว่าชนิดที่เทียบไม่ได้กับงานของเจ้าชายวิลเลียม

สถานที่ซึ่งคู่บ่าวสาวออกมาจุมพิตที่ระเบียงมุขให้ประชาชนได้ชื่นชม เจ้าชายวิลเลียมและพระชายาได้เสด็จออกมายังระเบียงมุขของพระราชวังบักกิงแฮม และจุมพิตกันเหมือนครั้งที่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดา เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงไดอานา แต่คู่ของเจ้าชายแฮร์รีกับมาร์เคิลไม่น่าจะมีพิธีดังกล่าวนี้

เค้กแต่งงาน พิธีเสกสมรสตามราชประเพณีจะถือว่ายังไม่ครบสมบูรณ์ หากไม่มีเค้กผลไม้ ข่าวว่าเจ้าชายแฮร์รีและมาร์เคิลเลือกเสิร์ฟเค้กแต่งงานปรุงรสเลมอน เอลเดอร์ ฟลาวเวอร์
ส่วนคู่ของเจ้าชายวิลเลียมและเคทมีเค้กแต่งงานตามราชประเพณีของอังกฤษ 1 ชิ้น และยังมีเค้กที่ทำจากขนมปังช็อกโกแลตอีก 1 ชิ้น ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของเจ้าชายวิลเลียม

ภาษากาย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คู่ของเจ้าชายแฮร์รีแตกต่างจากคู่ของเจ้าชายวิลเลียมอย่างมาก และอย่างเห็นได้ชัด คู่เจ้าชายวิลเลียมกับพระชายาทรงปฏิบัติตามราชประเพณีมากกว่า โดยจะประทับยืนห่างให้มีช่องว่างระหว่างกัน ดูมีความเป็นทางการ ผิดกับคู่ของเจ้าชายแฮร์รีกับมาร์เคิลที่มักจะมีภาพจูงมือกัน จับมือกัน แสดงความรักต่อกันอย่างเปิดเผยเมื่อปรากฏตัวต่อสาธารณชน

การประทับราชรถม้า ไปตามถนนในกรุงลอนดอนให้ประชาชนได้ร่วมชื่นชมยินดี ซึ่งเป็นหนึ่งในธรรมเนียมปฏิบัติของราชสำนักที่คู่ของเจ้าชายวิลเลียมและเคทเลือกปฏิบัติตาม แต่สำหรับคู่ของเจ้าชายแฮร์รีด้วยความที่สถานที่จัดพิธีเสกสมรสไม่ได้อยู่ใจกลางกรุงลอนดอนจึงไม่มีพิธีนี้

นอกจากนั้นยังไม่มีการประกาศให้วันเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีกับมาร์เคิลเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งต่างจากวันที่เจ้าชายวิลเลียมเข้าพิธีเสกสมรสกับเคท มิดเดิลตัน เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2554 ซึ่งรัฐบาลอังกฤษประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ

การเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษครั้งแรก เคทได้เข้าเฝ้าองค์ประมุขแห่งอังกฤษครั้งแรกระหว่างไปร่วมงานวิวาห์ของ ปีเตอร์ ฟิลิป กับ ออทัม เคลลี เมื่อปี 2551 ขณะที่มาร์เคิลได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในบรรยากาศที่เป็นส่วนพระองค์มากกว่าโดยมาร์เคิลพร้อมด้วยเจ้าชายแฮร์รีได้เข้าเฝ้าควีนและร่วมจิบน้ำชา สนทนานานร่วม 1 ชั่วโมงที่พระราชวังบักกิงแฮม

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่าง 2 สะใภ้หลวงแห่งราชวงศ์อังกฤษที่เห็นได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ ก็คือแบ๊กกราวน์ทางครอบครัว ที่มักจะมีข่าวเชิงลบออกมาจากฝั่งของครอบครัวมาร์เคิล ล่าสุดก่อนหน้าจะถึงวันเสกสมรสอีกไม่กี่วัน นายโธมัส มาร์เคิล บิดาวัย 73 ปีของมาร์เคิล ก็ตกเป็นข่าวฉาวถูกจับได้ว่าตกลงขายรูปของตัวเองให้ปาปาราซซี

เพื่อแลกกับเงิน 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3,200,000 บาท!!!