ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางเอเอ๊ะเตน อายุ 55 ปี ชาวพม่า รับตัดผมเพื่อหาเลี้ยงชีพที่ตลาดแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของย่างกุ้ง ประเทศพม่า ซึ่งเธอต้องจ่ายเงินเพื่อนำผมมาจากลูกค้า และวันหนึ่งเธอมีลูกค้าประมาณ 7-10คน โดยประเทศพม่าเป็นแหล่งขายผมมนุษย์อันดับต้นๆของโลก สำหรับการทำวิกผมและแฮร์พีซ เธอกล่าวว่า “ผมพม่าเป็นผมที่นุ่มที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาดเอเชีย”
จากรายงานเมื่อปีพ.ศ. 2559 ธุรกิจขายผมในประเทศพม่ามีการซื้อ-ขายมูลค่าสูงถึง 87.4 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับที่สาม รองจากประเทศอินเดียและประเทศตูนิเซีย ตามความเชื่อของชาวพม่า ผมเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีตำนานว่าเจดีย์ชเวดากอง หนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ สร้างมาจากปอยผมของพรัพุทธเจ้า
อย่างไรก็ตาม การขายผมก็เป็นเรื่องปกติเพื่อหาเงินยังชีพต่อไป ผมจากพม่าส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปที่ประเทศจีน เพื่อทำการแปรรูปและส่งขายให้ประเทศแถบตะวันตก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เศรษฐกิจในประเทศพม่าเติบโตมากขึ้น จึงมีการคาดการณ์ว่า ผู้หญิงจะตัดผมตัวเองขายน้อยลง
ราคาของผมขึ้นอยู่กับคุณภาพและน้ำหนัก แต่สำหรับนางเอเอ๊ะเตน เธอวัดจากความรู้สึกและสัมผัสว่าแข็งแรงและนุ่มหรือเปล่า โดยเธอจะชั่งผมขายตามน้ำหนักให้กับลูกค้า ปกติแล้วราคาขายอยู่ในช่วง 11 ดอลลาร์ ถึง 150 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,400 บาท ถึง 4,700 บาท ซึ่งมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำต่อวันที่ได้วันละ 3.7 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 54 บาท
ผมที่มีราคาแพงจะมาจากผมผู้หญิงที่ยาวถึงข้อเท้าซึ่งแบ่งเป็นช่อผมขายได้เป็นชิ้นๆ ส่วนผู้ชายบางคนก็ไว้ผมยาวเพื่อขายเช่นกัน โดยลูกค้าไม่แบ่งแยกผมตามเพศ ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพมาก
สาเหตุที่ผู้หญิงขายผมค่อนข้างแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่คือเรื่องร้อนเงิน เช่น จ่ายค่าเช่าบ้าน ชำระหนี้สิน และออมเงิน มีผู้หญิงคนหนึ่งขายผมเพราะว่ารู้สึกร้อนเกินกว่าจะไว้ผมยาว เธอเอาเงินจำนวนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและซื้อของถวายพระ ในบางรัฐที่ยากจนของประเทศพม่า
การขายผมเป็นวิธีการหาเงินที่ยั่งยืนวิธีหนึ่งในช่วงเวลายากลำบาก อีกทั้งในช่วงวันสำคัญทางศาสนาพุทธ ผู้หญิงและเด็กหญิงหลายคนปลงผมและบวชเป็นระยะเวลา 10 วัน
บรรดาพ่อค้าในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ เผยความกังวลว่าอุปสงค์กำลังจะสูงเกินกว่าอุปทาน โดยแต่ก่อนผมที่ขายมาจากผู้หญิงพม่าทั้งหมด แต่ช่วงนี้ต้องผสมผมจากประเทศบังคลาเทศและประเทศอื่นๆเข้ากับผมพม่าก่อนขาย แต่ตลาดขายผมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้อาจมีผมคุณภาพดีลดน้อยลง ซึ่งผู้หญิงมักขายผมที่ตัดสั้นลงเรื่อยๆ และผมธรรมชาติที่ไม่ผ่านการทำสีผมหรือดัดแปลงก็มีน้อยลงอย่างมาก ปัจจัยนี้ส่งผลให้มีราคาขายแพงขึ้น