“สตาร์บัคส์” ผนึก “เอสโซ่” บุกปั๊มน้ำมัน ท้าชน “อเมซอน” ของ ปตท.

แม้ว่าไดเร็กชั่นการขยายสาขาของ “สตาร์บัคส์” ในช่วงที่ผ่านมา จะเปิดกว้างสำหรับพื้นที่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ คอนโดมิเนียม ตึกออฟฟิศ โชว์รูมรถยนต์ ฯลฯ แต่พื้นที่หนึ่งที่สตาร์บัคส์ยังไม่เข้าไปแตะมากนัก นั่นก็คือ “ปั๊มน้ำมัน”

ในขณะที่ปั๊มน้ำมันถือเป็นโลเกชั่นยุทธศาสตร์ของคู่แข่งรายสำคัญ เช่น “อเมซอน” ที่เข้าไปปักหมุดตามปั๊มของบริษัทแม่ อย่าง “ปตท.” เกือบทุกแห่ง ซึ่งปัจจุบันมีสาขามากกว่า 1,700 สาขา และมีแพลนจะขยายให้ครบ 1,900 สาขาภายในอีก 5 ปี

ส่วนสตาร์บัคส์นั้น ยังไม่เคยจับมือกับปั๊มไหนอย่างเป็นทางการ จะมีก็แต่การเข้าไปเปิดในพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ของ “เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์” ที่ ปตท.และคริสตัล พาร์ค ของกลุ่ม เค.อี.แลนด์พัฒนาร่วมกัน หรือไม่ก็จะเป็นรูปแบบของร้านสแตนด์อะโลน มีบริการไดรฟ์ทรู เปิดแยกออกมาต่างหากในพื้นที่ใกล้เคียงกับปั๊มน้ำมันต่างๆ

อาจเป็นเพราะแต่ละปั๊มก็มีแบรนด์ร้านกาแฟที่ตัวเองพัฒนาขึ้นมาเร่งเสริมรายได้จากกลุ่มน็อนออยล์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชลล์ที่มีร้าน “เดลี่ คาเฟ่” พีที ที่มีร้าน “กาแฟพันธุ์ไทย” และ “คอฟฟี่เวิลด์” รวมถึงบางจาก ที่มีร้าน “อินทนิล”

ส่วนเอสโซ่นั้น ใช้รูปแบบการหาพาร์ตเนอร์ โดยที่ผ่านมาได้จับมือกับ “คาเฟ่ ดิโอโร่” และ “ราบิก้า คอฟฟี่” ซึ่งไม่ได้เอ็กซ์คลูซีฟกับแบรนด์ใดเป็นหลัก นับว่าเป็นช่องว่างที่สตาร์บัคส์สามารถเข้าไปเจาะตลาดปั๊มน้ำมันได้

ล่าสุด แหล่งข่าวจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทได้ร่วมมือกับสตาร์บัคส์ พันธมิตรรายใหม่เพื่อรุกธุรกิจน็อนออยล์ โดยในระยะแรกจะเปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ 3 สาขา ได้แก่ บางบัวทอง, เพชรบุรี และกาญจนบุรี และกำลังพิจารณาขยายสาขาเพิ่มเติม โดยสาขาทั้งหมดของปั๊มเอสโซ่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 500 กว่าแห่ง

ศักยภาพของเอสโซ่ หากมองในด้านจำนวนสาขา ก็ถือว่าเป็นรองปั๊มใหญ่แค่ ปตท. พีที และบางจาก อีกทั้งในด้านของบรรยากาศภาพรวมในปั๊ม ที่มีแม็กเนตอีกหลายแบรนด์ เช่น แฟมิลี่มาร์ท, ลอว์สัน, โลตัสเอ็กซ์เพรส, เบอร์เกอร์คิง, เคเอฟซี ฯลฯ ถือว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้ปั๊มอื่นๆ การจับมือกับเอสโซ่ในครั้งนี้ จึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสตาร์บัคส์ได้ไม่น้อยในระยะยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาขาของสตาร์บัคส์ในปัจจุบันมีมากกว่า 320 สาขาทั่วประเทศ และมีแผนเปิดให้ครบ 400 สาขาในปี 2562 ผ่านโมเดลร้านที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล เอาต์เลต คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ และในปีที่ผ่านมายังเข้าไปเปิดในสถานีรถไฟใต้ดินเป็นครั้งแรก ที่สถานีเพชรบุรี รวมถึงปีก่อนหน้าที่เข้าไปเปิดในโชว์รูมรถยนต์โตโยต้า

และยังมีการออกแบบร้านในคอนเซ็ปต์ที่กลมกลืนไปกับชุมชนในย่านนั้น เช่น สาขากาดฝรั่ง เชียงใหม่ ที่ตกแต่งร้านแบบไทยล้านนา สาขาวังน้อย อยุธยา ที่ตกแต่งด้วยอิฐแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอยุธยา ฯลฯ รวมถึงสาขาใหญ่สุดหรูที่สุด ที่สยามสแควร์วัน บนพื้นที่กว่า 400 ตร.ม. เปิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอบโจทย์ในด้านของประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ไม่ได้มองแค่การดื่มกาแฟ

ขณะที่กลยุทธ์การตลาดของสตาร์บัคส์ก็เข้มข้นไม่แพ้กาแฟที่อยู่ในแก้ว ทั้งเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ คอลเล็กชั่นดริงก์แวร์ที่ออกใหม่ทุกเดือนเพื่อยั่วใจสาวกให้มาลิ้มลองและสะสม โดยล่าสุด เปิดตัวแก้วกาแฟคอลเล็กชั่นพิเศษ ร่วมกับแบรนด์พอลแอนด์โจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนก่อนหน้ามีคอลเล็กชั่นพิเศษวันสงกรานต์, คอลเล็กชั่นซากุระ เป็นต้น พร้อมกับโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถเรียกลูกค้ามาต่อคิวแบบล้นทะลักได้อยู่เสมอ

นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับแบรนด์เบเกอรี่ชื่อดัง “อาฟเตอร์ยู” ส่งขนมหวานเมนูฮิต ทั้งชิบูย่า ฮันนี่โทสต์, ช็อกโกแลตบราวนี่ ฯลฯ เสิร์ฟในร้านสตาร์บัคส์รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์บาร์ ที่เมกาบางนา และสยามสแควร์วัน เพื่อขยายไลน์ของหวาน เพิ่มยอดซื้อต่อบิล โดยดึงแบรนด์โลคอลเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์เพื่อเอาใจลูกค้าคนไทยให้อยู่หมัด แบรนด์ระดับโลก จึงต้องโลคอลไลซ์และเข้าไปอยู่ในทุกที่ที่มีโอกาส

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ