แนะ ‘ร้านอาหารริมทาง’ เลิกพฤติกรรมใช้ช้อนเดียวทั้งชิมทั้งปรุง หวั่นเชื้อโรคปนเปื้อน

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเตือนกรณีพบผู้ปรุงอาหารจำหน่าย มีพฤติกรรมการชิมอาหารโดยใช้ช้อนคันเดียว ทั้งชิมและคนอาหารว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะส้มตำข้างถนนที่พบว่ามีการเอานิ้วจิ้มน้ำส้มตำเพื่อชิมรสชาตินั้น เสี่ยงทำให้อาหารมีการปนเปื้อนสิ่งที่มาจากปากของผู้ปรุงอาหาร ซึ่งเยอะมากโดยเฉพาะแบคทีเรีย ไวรัสตับอักเสบต่างๆ ที่มากับน้ำลาย โรคติดต่อที่ผ่านทางน้ำลายจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งเยอะ ดังนั้นไม่ควรทำ ช้อนต้องล้างทุกครั้ง แยกช้อนที่ใช้คนอาหารกับช้อนที่ชิมอาหาร นอกจากนี้ ควรแยกภาชนะอื่นๆ จาน ชาม เขียงด้วย เพราะนอกจากการปนเปื้อนอาหารสิ่งหนึ่งไปยังอาหารอีกสิ่งหนึ่งนั้น อาจจะก่อให้เกิดโรคได้ ยังอาจจะทำให้เกิดการปนเปื้อนสิ่งที่ผู้บริโภคที่ไม่ต้องการด้วย อย่างเช่นที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการสำรวจตลาดสดช่วงก่อนเทศกาลกินเจพบว่ามีอาหารเจปนเปื้อนดีเอ็นเอของเนื้อสัตว์ก็มาจากการใช้เขียงเช่นเดียวกัน

%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b3

นพ.วชิระ กล่าวว่า ข้อแนะนำคือผู้ปรุงอาหารควรล้างมือให้สะอาด สวมถุงพลาสติกคลุมมือ เวลาปรุงอาหาร ภาชนะที่ใช้ปรุง ทั้งจาน ชาม ช้อน เขียง ต้องล้างทำความสะอาด ซึ่งจากการสำรวจก่อนจะมอบตราสัญลักษณ์ “อาหารสะอาด รสชาติอร่อย” หรือคลีน ฟู๊ด กู๊ด เทสต์ ซึ่งมีการกำหนดมาตรฐานของผู้ปรุงอาหารเอาไว้นั้นพบว่าร้านอาหารข้างถนนผ่านมาตรฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 70-80 แต่อยากให้ผ่านมาตรฐานมากกว่านี้ เพราะการที่ร้านอาหาร ผู้ประกอบอาหารมีมาตรฐานจะช่วยลดสิ่งปนเปื้อนในอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ป้องกันการติดต่อของโรคที่มาจากอาหาร และการปรุงอาหาร สร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของร้านอาหารไทยให้กับผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ผู้บริโภคที่พบผู้ปรุงอาหารมีสุขลักษณะการปรุงอาหารที่ไม่ถูกต้องเช่นการใช้ช้อนคันเดียวทั้งชิมทั้งคนอาหารนั้นก็สามารถทักท้วงและยกเลิกได้
ที่มามติชน