3 หน่วยงานผนึกกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ให้มีคุณภาพ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จับมือ องค์การเภสัชกรรม และองค์การสุรา กรมสรรพสามิต ร่วมกันศึกษา วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ให้มีคุณภาพตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน รวมถึงการจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ ทั้งนี้เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ประชาชน ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขของประเทศ ใช้เทคโนโลยี มาสร้างสรรค์ สู่นวัตกรรม เพื่อความสำเร็จของ “สาธารณสุข 4.0 แอลกอฮอล์คุณภาพมาตรฐานสากล”

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์เองมีบทบาทในการศึกษาวิจัยและพัฒนาทางห้องปฏิบัติการเพื่อการสนับสนุนการแก้ไขปัญหา ด้านการสาธารณสุข รวมถึงการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ จึงได้กำหนดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ในการใช้งานประเภทต่างๆเป็นประโยชน์ต่อสุขอนามัยของประชาชน

ดังนั้นจึงได้พัฒนาวิธีทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์  โดยทดสอบผลิตภัณฑ์ที่องค์การเภสัชกรรมและองค์การสุราได้พัฒนาในรูปแบบต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ของเหลว 70%  ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ 69.5% และ 80% พลัส  ทั้งทางเคมีและจุลชีววิทยา ผลจากการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อที่ระยะห่างในการฉีดพ่นแผ่นทดสอบ  30 เซนติเมตร ระยะเวลาในการพ่น 5 วินาที และระยะเวลาที่เชื้อโรคสัมผัสผลิตภัณฑ์ 10 นาที ผลปรากฏว่าแอลกอฮอล์สเปรย์ฆ่าแบคทีเรียได้ 100% นอกจากนี้ได้มีการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ผลปรากฏว่าแอลกอฮอล์สเปรย์ มีระยะเวลาในการสัมผัส ( contact time ) น้อยที่สุดที่ทำลายเชื้อไวรัส H5N1 เพียง 1 นาทีเท่านั้น

ด้าน ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงความคืบหน้าว่า ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ในรูปแบบต่างๆเพื่อใช้ในทางสาธารณสุข ล่าสุดได้รับมาตรฐาน GMP ในการผลิตผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์รูปแบบยาน้ำ เพื่อใช้ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในสถานพยาบาล ผลการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อ พบว่า สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการได้ 99.999% เมื่อทดสอบซ้ำ โดยลดระยะเวลาที่เชื้อโรคสัมผัสผลิตภัณฑ์ (exposure time) เหลือ 1 นาที ปรากฏว่า ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.999% เช่นกัน การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว องค์การเภสัชกรรมได้ช่วยสนับสนุนการกำหนดค่ามาตรฐานของผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ในระบบสาธารณสุข เพื่อความเหมาะสมของผู้บริโภค มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเกิดความปลอดภัยต่อการใช้อีกด้วย