แก๊งปาหินอยุธยาโผล่อีก โดนรถบัสโดยสารและรถเก๋งพร้อมๆกัน บนถนนสายเอเชีย

เวลาประมาณ 22.30 น. ของกลางดึกคืนวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ แสงเงิน พนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุอาสาสมัครพุทไธสวรรค์ จุดบางปะหัน ว่ามีรถบัสโดยสาร วีไอพี ของบริษัท สมบัติ ทัวร์ วิ่งระหว่าง กรุงเทพ -พะเยา หมายเลขข้างรถ ม1ข 922-13 ทะเบียน 15-7247 กรุงเทพมหานคร เป็นรถร่วมบริษัทขนส่ง จำกัด มีนายวิเวทศ์ จันทวงศ์ อายุ 45 ปี บ้านเดิมจังหวัดแพร่ และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 4412 ตราด มีนายกิตติศักดิ์ นาคพงษ์พันธ์ อายุ 19 ปี เป็นคนขับขี่

โดยทั้งสองคันถูกคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่กระจกหน้ารถแตก จอดอยู่ริมถนนสายเอเชีย ขาขึ้นเหนือ เชิงสะพานข้ามแม่น้ำ ลพบุรี ตรงข้ามเกาะพงษ์เพชร หลัก กม.ที่ 31 ตำบลขยาย อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ในที่เกิดเหตุพบรถบัสโดยสารคันดังกล่าว เป็นรถบัสนอน วีไอพี มีผู้โดยสารเต็มคันจำนวน 34 คน กระจกหน้ารถด้านบน มีรอยแตกแผลขนาดใหญ่กว้างเกือบ 30 เซนติเมตร

ตำรวจสอบถาม นายวิเวทศ์ จันทะวงค์ โชเฟอร์ทราบว่าขับรถรับผู้โดยสารมาเต็มคัน ออกจากหมอชิต ปลายทางที่จังหวัดพะเยา ด้วยความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาในช่องกลาง มาถึงจุดที่เกิดเหตุก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี ช่วงหลัก กม.ที่ 29 ตำบลขยาย อำเภอบางปะหัน ถูกคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ผมหยิก สภาพคล้ายคนติดยา นุ่งกางเกงขาสั้นแบบบล็อกเซอร์ลายสก๊อตสีขาว ที่วัยรุ่นนิยมใส่กัน ใส่เสื้อสีฟ้า มีรถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อ จอดอยู่ริมถนน

จากนั้นได้ปาก้อนหินเข้าใส่กระจกหน้ารถอย่างแรงเสียงดังสนั่น หลังเกิดเหตุไม่กล้าจอดเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ได้ขับรถเลยข้ามสะพานเห็นมีรถชาวบ้านจอดอยู่ริมทางจึงจอดขอความช่วยเหลือแจ้งตำรวจตรวจสอบ ระหว่างรอตำรวจได้มีกลุ่มวัยรุนขับรถจักรยานยนต์มาเป็นกลุ่ม ขับวนเวียนหลายครั้งคาดว่าเป็นพวกคนร้าย ก่อนจะขับหนีหายไป

ด้านพนักงานแอร์บัสสาวนั่งมาด้านหน้าคู่กับคนขับได้ให้การว่า เห็นแต่เพียงมีก้อนหินปาเข้าใส่หน้ารถเสียงดังสนั่นใจคอไม่ดีไม่คิดว่ารถจะถูกปาหินเหมือนกับในข่าวไม่คิดจะมาเกิดกับตนเอง

ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบรถเก๋งฮอนด้า ซีวีค ของนาย กิตติศักดิ์ นาคพงษ์พันธ์ จอดอยู่ด้านท้ายรถบัสโดยสาร ในสภาพกระจกด้านด้านซ้ายมีร่องรอยแตกจากการถูกปาหินเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 เซนติเมตร

%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%98%e0%b8%a2%e0%b8%b23-768x432-1

สอบสวนทราบว่าได้ขับรถไปรับแฟนสาวกลับจากทำงาน จากตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา กลับบ้านอำเภอบางปะหัน มาตามถนนสายเอเชีย เหลืออีกประมาณไม่ถึง 1 กิโลเมตร จะข้ามสะพานแม่น้ำลพบุรี ได้มีคนร้ายใช้ก้อนห้อนขนาดใหญ่ปาเข้าใส่กระจกหน้ารถด้านซ้ายอย่างแรง โชคดีก้อนหินไม่ทะลุกระจกติดฟิลม์กรองแสงสองชั้น จึงรอดตายมาได้

ซึ่งนางสาวอังคณา ประสพสม อายุ 22 ปี แฟนสาวนั่งมาด้านซ้าย ให้การว่าเห็นมีคนถือหินปาเข้าใส่กระจกหน้ารถอย่างแรงเสียงดังสนั่น แฟนไม่กล้าจอด พอข้ามสะพานเห็นรถบัสจอดอยู่จึงจอดตามและทราบว่าถูกปากระจกหน้ารถเหมือนกัน เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มแก้งเดียวกันก่อเหตุ

พลตำรวจตรี สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบเหตุสั่งการให้ ชุดสืบสวน สภ.บางปะหัน เจ้าของท้องที่และชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุค้นหากลุ่มวัยรุ่นตามคำให้การเบื้องต้นของผู้เสียหายทั้งสองคันที่ให้เบาะแสติดตาม ให้เน้นแหล่งมั่วสุมรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นในรัศมีที่เกิดเหตุ รวมถึงอำเภอข้างเคียง และให้ตำรวจวิทยาการตรวจสอบกล้องหน้ารถบัสโดยสารคันเกิดเหตุที่ติดตั้งไว้ คาดว่าจะบันทึกภาพของคนร้ายไว้ได้ตามคำให้การของนายวิเวทศ์ จันทวงศ์ คนขับรถบัส

ซึ่ง พล.ต.ต.สุทธิ กล่างอีกว่า มั่นใจว่าการติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ยากนักจากคำให้การของโชเฟอร์ที่จำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้และมีกล้องติดหน้ารถจะเป็นประโยชน์ในการติดตามคนร้ายเป็นอย่างมาก

สำหรับคดีปาหินเกิดขึ้นบ่อยครั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างความหวาดวิกลัว แก่ผู้สัญจรผ่านไปมา เพราะมีถนนสายหลักของประเทศพาดผ่านหลายสาย โดยถึงแม้ว่าเกือบทุกครั้งจับกุมผู้ก่อเหตุได้ พร้อมมีการลงโทษอย่างหนักตามกฎหมาย แต่กลุ่มวัยรุ่นยังไม่เคยหลาบจำ