แม่ค้า โต้! ทุเรียนสุก-ไม่เน่า เอาผิดมือปล่อยคลิป หลังถูกจวกยับ! กระทบจิตใจ-ขาดความน่าเชื่อถือ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ PareryAustin-n ได้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความว่า “เถียงไม่ทัน จุกไม่ใช่อะไรหรอก ไม่อยากได้เงินคืน แต่พอเกิดเรื่องปากต่อปากพูดให้ฟัง หลายรายแล้วที่โดน ฝากแชร์ด้วยนะคะ” โดยคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์โต้เถียงระหว่างแม่ค้าขายทุเรียนบริเวณริมถนนหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ซื้อได้เลือกทุเรียนเอง ขณะที่แม่ค้าก็บอกให้เอาอีกลูกเพราะราคาไม่ต่างกัน แต่ผู้ซื้อยืนยันจะเอาลูกดังกล่าว เมื่อนำไปผ่าด้วยตัวเองก็พบว่าทุเรียนเน่าจึงได้นำมาคืนพร้อมขอเงินคืนด้วย แต่แม่ค้ายืนยันว่าไม่ใช่ทุเรียนเน่าเพราะมันแค่สุกงอม ก่อนจะมีการท้าทายให้แม่ค้าชิมดู หลังจากนั้น ผู้ซื้อได้ระบุว่าจะนำทุเรียนไปที่สถานีตำรวจ โดยแม่ค้าไม่ได้เกรงกลัวและจะรอขอความเป็นธรรมกับตำรวจเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้ที่พบเห็นโพสต์ดังกล่าวได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ตำหนิพฤติกรรมไม่เหมาะสมของร้านค้าดังกล่าว ทั้งเรื่องป้ายระบุสินค้าและราคาไม่ชัดเจน โดยป้ายระบุว่าทุเรียนหมอนทองหวานมันรับประกันเนื้อ แต่ผู้ซื้อดังกล่าวกลับได้ทุเรียนพันธุ์ชะนี

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายทุเรียนดังกล่าว ที่ตั้งขายอยู่ทางเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.สุรินทร์ และได้พบกับแม่ค้าทุเรียนรายนี้ชื่อนางเที่ยง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาวศรีสะเกษ พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีลูกค้ามาซื้อทุเรียนและขอเลือกเอาลูกที่ซื้อไป โดยตนบอกว่าเนื้อมันไม่ดีและให้เอาหมอนทองดีกว่า ซึ่งตนก็จะเลือกให้ แต่ลูกค้าไม่ยอมและยืนยันจะเอาทุเรียนลูกดังกล่าว เนื่องจากมีราคาถูก

นางเที่ยง กล่าวต่อว่า อีกทั้ง ตนได้บอกว่าหากซื้อไปแล้วเอามาคืนไม่ได้ ซึ่งลูกค้าก็ซื้อไป หลังจากนั้นลูกค้าได้เอาทุเรียนมาคืน ซึ่งตนก็ไม่รับคืน เพราะบอกไปแล้วว่าไม่รับคืน และทราบว่าลูกค้าได้มีการนำเรื่องราวและคลิปวิดีโอไปโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์ กระทั่งทำให้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิตนจนได้รับความเสียหาย

“หลังจากที่มีกระแสเรื่องทุเรียนเน่าออกไป ตนได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งด้านจิตใจและขาดความน่าเชื่อถือจากลูกค้า ทำให้ไม่มีใครกล้ามาซื้อทั้งที่ตนได้ชี้แจงกับลูกค้าว่าลูกที่จะเอาเนื้อมันเละ ให้เอาหมอนทองดีกว่า และตนก็จะเลือกให้ แต่ลูกค้าไม่ยอมจะเอาทุเรียนลูกดังกล่าวให้ได้ เพราะเงินน้อยซึ่งตนก็เป็นแม่ค้า ถ้าลูกค้ายืนยันว่าจะเอาก็ต้องขาย พร้อมบอกไว้ว่าถ้าซื้อไปแล้วเอามาคืนไม่ได้นะ ลูกค้าก็เอาไป เมื่อลูกค้านำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ก็มีคนเข้ามาประณามต่างๆ นานา ทำให้ตนเสียหายและจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด” แม่ค้าทุเรียน กล่าว

นางเที่ยง กล่าวอีกว่า ตนขอฝากไปถึงทุกคนให้คิดดูว่าผิดหรือไม่ ให้เอาหัวใจแม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำปากกัดตีนถีบ ว่าตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่โพสต์ให้เขาเสียหาย แต่ขอให้พิสูจน์และพูดคุยกันก่อนว่าของเขาเสียหายจริงหรือไม่ รับผิดชอบต่อลูกค้าหรือไม่ หลังจากนั้น ก็ค่อยเอาไปโพสต์ให้คนเขามาโจมตี ซึ่งการกระทำแบบนี้เหมือนฆ่ากันทั้งเป็น ทั้งนี้ ตนเสียใจมากจึงอยากให้ทุกคนเก็บไปคิด โดยตอนนี้ตนได้รับผลกระทบมากและเขาจะรับผิดชอบเราอย่างไร

ด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ได้ลงบันทึกข้อความทุกคำพูดของแม่ค้าทุเรียนรับทราบ แม่ค้าทุเรียนจึงได้ลงนามในบันทึกไว้ให้กับเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดยังได้นำลูกตุ้มมาตรวจสอบตาชั่งว่ามีน้ำหนักได้มาตรฐานหรือไม่ ปรากฏว่า ตาชั่งมีน้ำหนักได้มาตรฐาน แต่ป้ายระบุชนิดสินค้าไม่ชัดเจน โดยระบุว่า “ทุเรียนหมอนทองหวานมันรับประกันเนื้อ” แต่ที่ขายและลูกค้าได้ไปเป็นทุเรียนพันธุ์ชะนี ซึ่งผู้ที่เคยทานระบุว่าเนื้อทุเรียนถ้าสุกมากจะมีลักษณะเหมือนที่ผู้ซื้อได้โพสต์ไปไม่ใช่ทุเรียนเน่า ในส่วนเรื่องเนื้อของทุเรียนนั้น เป็นหน้าที่ของ สคบ. ที่จะตรวจสอบต่อไป

สำหรับความคืบหน้าในวันที่ 19 เม.ย. จากการสอบถาม พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยสั้นๆ ว่า กรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาทำการเจรจากันก่อน เพื่อหาข้อยุติที่ดีร่วมกัน