เผยแพร่ |
---|
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ 28 มี.ค. 2561 จะมีการเสนอแนวทางให้คณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบการจัดทำสลากแบบรวมชุดออกมาขายเอง เพื่อแก้ปัญหาสลากรวมชุดและราคาแพง รวมถึงช่วยเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสามารถซื้อสลากรวมชุดในราคายุติธรรมมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมายังพบมีสลากรวมชุด และราคาแพงเกินกฎหมายกำหนดขายอยู่ ซึ่งหลังจากประชุมคณะกรรมการเสร็จ จะมีการแถลงผลการประชุมที่ชัดเจนอีกครั้ง
นอกจากนี้จะมีการสรุปสถานการณ์การจำหน่ายลอตเตอรี่ และการดำเนินมาตรการแก้ไขในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาแจ้งให้คณะกรรมการรับทราบ ซึ่งยอมรับว่า แม้ภาพรวมราคาสลากจะถูกลง แต่ยังคงมีการขายรวมชุดและราคาแพงอยู่ เนื่องจากระยะหลังมีผู้ซื้อสลากรวมชุด แล้วถูกรางวัลใหญ่กันเยอะ จึงทำให้เกิดกระแสความต้องการสลากชุดเพิ่มขึ้น และมีผู้ค้าลงทุนทำสลากรวมชุดออกมาขาย ซึ่งแม้จะมีราคาแพงแต่ประชาชนก็ยังยอมซื้ออยู่
“ในการประชุมจะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาสลากแพงให้คณะกรรมการพิจารณา 3-4 ประเด็น อันดับแรกจะเสนอให้พิจารณาว่า สำนักงานสลากมีความจำเป็นต้องทำสลากรวมชุดออกมาขายเองหรือไม่ หรือเพียงใช้แค่มาตรการเดิมแก้ปัญหาก็พอ เช่น การขยายวันกระจายสลาก หรือเพิ่มโควตาการพิมพ์ และถ้าที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงานสลากทำลอตเตอรี่ชุดขายเอง ก็จะดูต่อว่า ควรทำสลากชุดออกมาขายในรูปแบบใด จำนวนเท่าไร ซึ่งแนวทางหนึ่งที่เสนอก็คล้ายกับที่เคยเป็นข่าวไปแล้วว่าจะทำสลากชุด 5 ใบ 400 บาท รวมถึงจะต้องพิจารณาวิธีการกระจายสลากชุด ตลอดจนระยะเวลาการออกสลากรวมชุดที่เหมาะสมด้วย”
รายงานข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้เกิน 80% แล้วที่สำนักงานสลากจะทำสลากรวมชุดออกมาขายเอง เนื่องจากกว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วการแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิม เช่น การเพิ่มโควตาการพิมพ์ การขยายวันรับสลาก รวมถึงการจับกุมอย่างเข้มงวด ไม่สามารถแก้ปัญหาสลากแพงได้ โดยสำนักงานสลาก ก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะออกสลากใบเดียวแทน 5 ใบ หรือ 20 ใบ แต่เบื้องต้นจะไม่มีการเพิ่มโควตาการพิมพ์สลากที่กำหนดไว้ 80 ล้านใบต่องวด
อย่างไรก็ตาม หากคณะกรรมการสลาก อนุมัติให้ทำได้จริง ก็จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ สอบถามความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องว่าอยากให้สำนักงานสลากดำเนินการอย่างไร รวมถึงการคัดเลือกผู้ค้าที่จะมาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากด้วย