ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. เชียงใหม่นิวส์ รายงานข่าวเรื่องรถพุ่มพวง โดยในข่าวระบุว่าผู้ค้าเร่แบบรถเร่ไม่ได้ขายดีเหมือนก่อน ถ้ามีรถมินิมาร์ทเคลื่อนที่มาเร่ขายด้วยก็คงยิ่งเดือดร้อน
นางแก้ว เนินกระโทก วัย 52 ปี กล่าวว่า การนำรถกะบะมาบรรทุกสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเร่ขายตามชุมชน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่ารถพุ่มพวงนั้น นับวันยิ่งลดน้อยลง เพราะมีการเปิดตลาดนัดชุมชนแทบทุกที่ จึงไม่มีความจำเป็นที่ชาวบ้านจะออกมาซื้อหาสินค้า ถ้ามีรถมินิมาร์ทเคลื่อนที่ของผู้ค้ารายใหญ่เร่ไปตามชุมชนแบบนั้นก็คงแย่เหมือนกัน
ด้านนายชัย (นามสมมติ) ผู้ค้าเร่รายหนึ่งกล่าวว่า การค้าขายแบบรถเร่ ทำมากว่า 20 ปี พอกินพอใช้เหลือวันละพันกว่า ไม่ได้ขายดีเหมือนก่อน ที่หักต้นทุนค่าน้ำมันรถ ค่าซื้อของซึ่งก่อนนั้น 2-3 พันบาทสบายๆ น่าจะแบ่งให้คนจนมีที่ค้าขายบ้าง แค่เปิดมินิมาร์ท บรรดาร้านโชห่วยก็ย่ำแย่กันหนัก
“ที่ยึดอาชีพรถเร่ขายของ จนส่งลูกเรียนจบได้ ก็พอมีลูกค้าประจำ รถพุ่มพวงแบบรถยนต์เร่ก็อีกกลุ่ม รถมอเตอร์ไซค์ รถพ่วงก็เร่ขายตามชุมชนอีกแบบ ถ้ามีรถมินิมาร์ทเร่ตามชุมชนก็คงเดือดร้อนกัน แต่สินค้าน่าจะคนละแบบ คนละกลุ่มตลาดมั้ง”
นายชัยยุทธ์ เขียวเล็ก หน.ฝ่ายตรวจสภาพรถ สนง.ขนส่ง จ.เชียงใหม่ กล่าวภายหลังร่วมชี้แจงสื่อฯ ในแผนขับขี่ปลอดภัยช่วงสงกรานต์ปีนี้ กับทีมข่าวว่า กรณีการนำรถยนต์ หรือยานพาหนะมาใช้ประกอบการรถเร่ขายสินค้า ตามชุมชนนั้น สามารถทำได้หากไม่มีการดัดแปลงสภาพรถ ตามที่จดแจ้ง หรือฝ่าฝืน พ.ร.บ.ขนส่ง,พ.ร.บ.จราจร
อย่างไรก็ตาม จากกระแสสื่อสังคมนำเสนอ การรุกเข้ามาของธุรกิจรายใหญ่ ในการนำรถมาเร่จำหน่ายสินค้าแบบมินิมาร์ทเคลื่อนที่นั้น ไม่มีความคิดเห็น เพราะไม่ทราบรายละเอียดการขออนุญาต แต่ถ้าเป็นรถบรรทุก รถขนส่งต่างๆ มีเงื่อนไขหลักเกณฑ์ให้ปฏิบัติตามกฎหมายชัดเจน คงไม่มีผู้ประกอบการรายใดอยากฝ่าฝืนกฎหมาย
ที่มา เชียงใหม่นิวส์
ที่มา ข่าวสดออนไลน์