พี่สาวเผยนาทีสุดท้าย พระเอกดัง “อโนเชาว์” จากไปหลังเป็นเจ้าชายนิทรา 34 ปี

วันที่ 21 มี.ค. เวลา 16.00 น. ที่ศาลา 4 ปวีณาหงสกุล วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ได้มีพิธีรดน้ำศพ อดีตพระเอกชื่อดัง “อโนเชาว์ ยอดบุตร” อายุ 59 ปี ที่เสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านด้วยอาการปอดบวม หลังจากนอนรักษาตัวจากประสบอุบัติเหตุตกรถจิ๊ป ศีรษะฟาดพื้น จนก้านสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงขณะถ่ายภาพยนตร์เรื่อง รักกันวันละนิด ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2526 กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานร่วม 34 ปี 5 เดือน

โดยบรรยากาศในงานมีเพียงเพื่อนๆ สมัยเรียน ญาติสนิทมาร่วมงาน ส่วนคนในวงการบันเทิงส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความอาลัย ด้านนาวาอากาศเอก(หญิง) เอื้อมพร ยอดบุตร พี่สาวที่ดูแล กล่าวว่า
“เขานอนป่วยมา 34 ปี 5 เดือน ตั้งแต่เขาป่วยเราก็ดูแลเขาอย่างดีที่สุด ทั้งของใช้และอาหารก็ซื้อของดีที่สุด สาเหตุที่เขาจากไปน่าจะเป็นเพราะปอดบวม เพราะทุกครั้งที่ส่งเขาเข้าโรงพยาบาลก็พบว่าเขาเป็นปอดบวม แต่ครั้งนี้เขาเพิ่งมีอาการผิดปกติเมื่อวาน(20 มี.ค) มีเสมหะเยอะกว่าปกติ ซึ่งเราดูดเสมหะเขาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อวานต้องดูดเสมหะบ่อยมาก มีไข้ และมีอาการหอบ เปี๊ยกเขาป่วยหนักๆ เมื่อปี 54 หนึ่งครั้ง ปี 60 อีก 1 ครั้ง และก็มาครั้งนี้ ซึ่งครั้งนี้มีอาการผิดปกติแค่มีเสมหะเยอะ หอบ มีไข้ เมื่อคืนดูแลทั้งคืน และเขาจากไปเมื่อตอนตี 4 ครึ่ง ซึ่งตอนตี 4 ตนได้เข้าไปดูเขา เครื่องวัดออกซิเจนอยู่ในระดับ 93 ก็อยู่ในระดับปกติ แต่เขามีอาการเหนื่อย ก็พ่นยา และให้ออกซิเจนอยู่ตลอดก่อนที่จะไปอาบน้ำ ตนให้เด็กเรียกรถโรงพยาบาลมาแล้ว และให้เขาเตรียมเอกสารและของใช้คนป่วยให้พร้อม จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แต่อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ เด็กบอกออกซิเจนตก พอรถโรงพยาบาลมาก็บอกเจ้าหน้าที่ว่าออกซิเจนไม่ขึ้นเลย ทางทีมแพทย์ก็ขนเครื่องวัดความดันมาวัดชีพจร เขาก็บอกว่าคนไข้จากไปแล้ว
เขาไปแบบเงียบๆ อย่างสงบ พยาบาลถามว่าจะปั้มหัวใจมั้ย ก็บอกพยาบาลว่าไม่ต้องปั้ม เขาทรมานมานานมากแล้ว ปล่อยให้เขาไปสบาย

ถามต่อว่าตอนที่ทราบว่าเขาจากไปแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
“รู้สึกใจหาย เพราะดูแลเขามาตั้งแต่เด็ก แต่มาคิดอีกทีเขาไปสบายแล้ว ไม่ทรมาน ช่วงที่เขานอนป่วย เราก็ดูแลเขาอย่างดี ไม่เคยท้อ พอเงินบำนาญออกก็จะไปซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ และอาหารมาให้เขา ซื้อยา ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ต้องจ้างคนมาช่วยดูแล ค่าใช้จ่ายพี่น้องก็มีเข้ามาช่วยบ้าง บางทีเขาไม่ป่วยเราก็ต้องเอาเขาเข้าไปเช็กสุขภาพที่โรงพยาบาล ต้องเช็กตลอด เพราะเรารู้ว่าถ้าตัวไหนไม่ดีมันก็จะไปหมด อย่างเมื่อปี 2554 เขาติดเชื้อทุกระบบ ตอนนั้นตัวเขียวแล้ว คิดว่าคงไม่ทัน แต่ก็หาย”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังจากนี้เราก็หมดภาระ วางแผนกับชีวิตยังไงต่อไป
“หมดภาระแต่เราก็แก่แล้ว เราก็เป็นอิสระมากขึ้น แต่เราก็รู้สึกโหวงๆ เหมือนกัน เพราะเราเลี้ยงเขามาด้วยตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าหลังจากนี้คงไปหาลูกที่ต่างประเทศ ที่ออสเตรเลีย และจะไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตกที่เขาอยู่ที่ออสเตรเลีย”

ในฐานะที่ดูแลน้องชายมาตลอดช่วงที่เขาป่วยอยากบอกอะไรกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย นาวาอากาศเอก(หญิง)เอื้อมพร ตอบว่า “เขาป่วยนอนเป็นเจ้าชายนิทรามากว่า 34 ปี 5 เดือน แต่ก็ยังรู้สึกที่ดีเพราะว่า น้องจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป ตนได้บอกกับเปี๊ยกว่า ขอให้ไปให้สบาย ไปเกิดในภพภูมิที่ดีๆ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนในชาตินี้ ก่อนหน้านี้ตนได้ซื้ออาหารผงสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารได้ มาให้น้องเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อน้องชายไม่อยู่แล้ว ส่วนนี้ตนจะนำไปบริจาคให้กับผู้ป่วยรายอื่นๆ ทำบุญให้กับน้องชายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้าที่อดีตพระเอกชื่อดังจะเสียชีวิตนั้น มีลางสังหรณ์อะไรบ้าง นาวาอากาศเอก (หญิง)เอื้อมพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พี่ชายคนโต มาเล่าให้ฟังว่า ฝันว่าฟันหัก ซึ่งโบราณถือว่า จะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้น้องชายจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะที่ดูแลน้อง มีเพื่อนในวงการบันเทิงและแฟนคลับของอโนเชาว์ มาช่วยเหลืออะไรบ้างหรือไม่ นาวาอากาศเอก(หญิง)เอื้อมพร กล่าวว่า ครอบครัวใช้จ่ายอย่างประหยัด แต่เมื่อปีที่แล้วมี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดัง ได้มาเยี่ยมแล้วนำเลขบัญชีธนาคารของตนไปแจ้งผ่านบรรดาแฟนคลับให้ความช่วยเหลือ ทำให้มีแฟนคลับของเปี๊ยก-อโนเชาว์ บริจาคเงินเข้ามา แต่อย่างเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับมานั้น ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดให้คุ้มค่าในการดูแลน้องให้มากที่สุด สำหรับกำหนดการสวดพระอภิธรรมนั้น จะมีไปจนถึงวันที่ 25 มี.ค.นี้ เวลา 18.00 น.ที่ศาลา 4 ปวีณาหงสกุล วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยจะฌาปนกิจในเวลา 14.00 น.วันที่ 26 มี.ค.นี้ ส่วนจะนำอัฐิไปลอยอังคารที่ไหนนั้น ทางญาติจะตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์