ผู้ว่าฯเมืองชล ลุยแก้วิกฤตขยะล้นเกาะล้าน ผงะแต่ละวันมีมากถึง 20 ตัน เร่งหาทางแก้

วันที่ 15 มี.ค. กรณีเกิดปัญหาขยะสะสมบนพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะล้าน เมืองพัทยา ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มากถึง 4-5 หมื่นตัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการบริหารจัดการที่ชัดเจน ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนจำนวนนับหมื่นคนต่อวัน โดยไร้ทิศทางการควบคุม ทั้งปริมาณและการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงระบบสาธารณูปโภค ขณะที่ปัญหาการก่อสร้างรีสอร์ท ที่พัก ก็ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดเต็มพื้นที่ โดยปัจจัยเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการสร้างปริมาณขยะจำนวนวันละ 20 ตันโดยประมาณ

ล่าสุด นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เมืองพัทยา สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี และฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่เกาะล้านเพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าในการหาแนวทางการแก้ไขแบบระยะยาว

นายภัครธรณ์ เผยว่า เกาะล้านนับเป็นพื้นที่ค่อนข้างวิกฤตในเรื่องขยะเพราะว่าปริมาณขยะในแต่ละวันมีมากถึง 20 ตันต่อวัน ซึ่งขยะส่วนใหญ่สาเหตุเกิดจากการท่องเที่ยว และเศษอาหารจากสถานประกอบการ เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่บนเกาะล้านค่อนข้างจำกัด จึงไม่มีการคัดแยกขยะ ประกอบกับสถานที่กำจัดขยะมีพื้นที่ที่ใช้ได้อยู่เพียง 12 ไร่ ทำให้ตรงนี้มีขยะที่ได้เอามาทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน มีขยะสะสมอยู่ 40,000 กว่าตัน จนล้นเต็มพื้นที่ต้องใช้เคนหรือแบ็กโฮเทิร์นเข้าไปเรื่อยๆ

ดังนั้นการลงมาดูพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาขยะทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งในขณะนี้ได้ว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีพระนครเหนือ ศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจัดสร้างเตาเผาขยะด้วยงบประมาณ 3 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อกำหนด ตัวบทกฎหมายทางด้านต่างๆ ในการใช้พื้นที่ในการดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ นสล. อีกทั้งยังมีปริมาณขยะสะสมอยู่เป็นจำนวนมากต้องมีการขนย้ายออกไปเสียก่อน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร ดังนั้นในขณะนี้จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจ้างภาคเอกชนขนขยะไปทำลายบนฝั่ง เนื่องจากปัจจุบันเรือขนถ่ายขยะของเมืองพัทยาเสียใช้การไม่ได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะแบบเร่งด่วน ว่าผลการศึกษาเป็นอย่างไร ควรจะกำจัดแบบใด หากอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจังหวัด ก็สามารถสั่งการให้ดำเนินการได้ทันท่วงที