พาณิชย์เช็กเข้มกระเทียมนำเข้าจากต่างประเทศ รับมือผลผลิตไทยกำลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากการค้าภายในจังหวัด และกรมศุลกากร ออกสุ่มตรวจแหล่งจำหน่ายกระเทียมขนาดใหญ่ ในบริเวณตลาดไท รังสิต เพื่อควบคุมให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่ต้องขออนุญาตขนย้ายกระเทียมนำเข้าจากต่างประเทศที่มีปริมาณตั้งแต่ 400 กิโลกรัมขึ้นไป

รวมทั้งผู้นำเข้า และผู้ครอบครอง ตั้งแต่ 2,000 ตันขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณ ชนิด ขนาด สถานที่จัดเก็บ ปริมาณการจำหน่าย และปริมาณคงเหลือ ต้องขออนุญาตในการขนย้าย และการครอบครอง ในพื้นที่จังหวัด 52 จังหวัด เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับปริมาณ และการจำหน่ายกระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตกระเทียม รวมไปถึงหอมหัวใหญ่ และหอมแดงของภาคเหนือ กำลังออกสู่ตลาดจำนวนมากตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ค.นี้ ประกอบกับผลผลิตของต่างประเทศก็ออกสู่ตลาดมากเช่นกัน เพื่อป้องกันผลผลิตจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายแข่งขันกับผลผลิตภายในประเทศ

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีผู้ค้ากระเทียม อย่างน้อย 5 ราย ที่ไม่แจ้งปริมาณการครอบครอง และไม่มีบัญชีการซื้อ และขาย ที่จะต้องทำเป็นรายวัน ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายตามโทษที่กำหนดไว้ โดยหากไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะแจ้งอย่างถูกต้อง ส่วนการไม่ขออนุญาตขนย้าย โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในร่วมกับกรมศุลกากร ตั้งด่านตรวจสอบการลักลอบนำเข้า กระเทียม รวมไปถึงหอมหัวใหญ่ และหอมแดง อย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้จัดชุดสายตรวจ เพื่อตรวจสอบในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ในวันศุกร์นี้ รมว.พาณิชย์ เตรียมลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกระเทียมรายใหญ่ มีผลผลิตรวมกันมากกว่า 30,000 ตัน จากผลผลิตเฉลี่ยปีละ 70,000 ตัน เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกร รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร เตรียมความพร้อมรองรับมาตรการเชื่อมโยงผลผลิตกระเทียม โดยเบื้องต้นกำลังประสานห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ให้เข้าไปรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร เพื่อนำไปเก็บสต๊อกชะลอการจำหน่ายผลผลิตในช่วงที่ปริมาณผลผลิตมากกว่าความต้องการใช้