แจ้งจับเมีย‘เปรมชัย’ ครอบครองงาช้างแอฟริกา พร้อมเผยแล้วผลชิ้นเนื้อ-กระดูกในหม้อซุป

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า (ชุดเหยี่ยวดง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีกับ นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยานายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด มหาชน ในความผิดฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 มีโทษตามมาตรา 47 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ภายหลังผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเองาช้าง จำนวน 4 กิ่ง หรือ 2 คู่ ที่พบในบ้านของนายเปรมชัย พบว่าเป็นงาช้างแอฟริกา โดยจากการตรวจสอบพบว่านางคณิตา เป็นผู้นำมาขึ้นทะเบียนกับกรมอุทยานฯ และได้มีการนำหลักฐานของงาช้างซึ่งอ้างว่าเป็นงาช้างบ้าน มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

ต่อมาเวลา 16.45 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. และ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี

โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ตรวจยึดงาช้างจำนวน 4 กิ่ง มาจากบ้านของนายเปรมชัย ซึ่งทางบก.ปทส. แจ้งว่าทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีหลักฐานเอาผิดผู้ครอบครองงาช้างโดยผลตรวจดีเอ็นเอนั้นพบว่าเป็นงาช้างจากแอฟริกา ส่วนจะแจ้งข้อหาอย่างไรขึ้นอยู่กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ

เบื้องต้นทราบว่ามีการแจ้งข้อหาครอบครองซากสัตว์สงวนกับนางคณิตา ภรรยาของนายเปรมชัย เพียงผู้เดียวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ หากพบว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้เมื่อมีการรับแจ้งแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนตามป.วิอาญา ส่วนในขั้นตอนการติดตามผู้กระทำความผิดมาสอบสวนนั้น ต้องออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 10 วัน หากไม่มาก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ถ้าไม่มาอีกก็จะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เพิ่งได้รับรายงานผลการตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานฯ ว่าชิ้นเนื้อที่พบในหม้อซุปและกระดูกท่อนขา จำนวน 2 ชิ้น ลำไส้ และเส้นขน เป็นของเสือดำจริง โดยเป็นเสือดำเพศเมีย ไม่ใช่เพศผู้ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นเนื้อเก้ง พบว่าเป็นเพียงเนื้อหมูป่า ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นไก่ฟ้าหลังเทา พบว่าเป็นไก่ฟ้าหลังขาว อุจจาระที่พบ ผลการตรวจพบเป็นอุจจาระของมนุษย์ ไม่พบดีเอ็นเอของเสือดำ

อีกทั้งจากการตรวจสอบวัตถุพยาน เช่น มีดอีโต้ มีดทำครัว มีดเหน็บ เขียงพลาสติก พบว่าบางชิ้นมีดีเอ็นเอของเสือดำเพศเมีย ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่พบในหม้อซุปด้วย

“ตนยืนยันว่าคดีนี้มีหลักฐานทั้งผลตรวจอาวุธปืน งาช้าง และซากสัตว์ป่า ชัดเจน จนสามารถเอาผิดกับนายเปรมชัยได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถเอาผิดกับนางคณิตา เรื่องครอบครองงาช้าง หากจะมีการโต้แย้งเรื่องเนื้อหมูป่าไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง ตนได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ว่า ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ป่าชนิดใดที่อยู่ในเขตอุทยาน ถือว่าได้รับการคุ้มครองทั้งหมด ขอยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำงานกันอย่างตรงไปตรงมา ถึงกระแสบนโลกออนไลน์จะมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำงานตามพยานหลักฐาน และไม่ได้ย่อท้อต่อการถูกวิจารณ์เนื่องจากตนกินภาษีจากประชาชนเป็นเงินเดือน อีกทั้งโลกออนไลน์ไม่มีในกฎหมาย หากความผิดใดเข้าข่ายข้อกฎหมาย ตนก็จะดำเนินการตรวจสอบให้ หากไม่เข้าข่ายข้อกฎหมายจะมาบังคับให้ตนทำตามใจนั้นเป็นไปไม่ได้ ขอยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน” รอง ผบ.ตร. กล่าว