เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และโฆษกดีเอสไอ พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีผลการตรวจค้นจับกุมแหล่งผลิต แหล่งเก็บ และแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้าชื่อดังจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และสำนักปฏิบัติการพิเศษ เข้าตรวจค้นร้านอลันและร้านเอนด์เลส ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายและเก็บซุกซ่อนสินค้าประเภทเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้า ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง ถ.พญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จากการการตรวจค้นพบเสื้อและกางเกงปลอมเครื่องหมายการค้า อดิดาส, อาร์มานี่, อะเบอครอมบี้, ดีเซล, เวอซาเช่, โปโล ฯลฯ รวม 1,455 ตัว มูลค่าของกลางประมาณ 1,300,000 บาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมจับกุมนายธนกฤต หนูพลับ และน.ส.ปุลภร พวงจันทร์ เจ้าของร้าน ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.อ.พินิจ นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นแหล่งผลิต แหล่งเก็บ และแหล่งจำหน่ายกางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้ารวม 5 จุด ได้แก่ ร้าน 168 ยีนส์ ตั้งอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้าวันแอทโบ๊เบ๊ กรุงเทพฯ ซึ่งมีห้องเก็บสินค้า 3 ห้อง อยู่ที่ชั้น 2 ของศูนย์การค้าดังกล่าว รวมถึงที่บ้านเลขที่ 124 และโรงงานเลขที่ 41 ซ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน 21 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบกางเกงยีนส์ปลอมเครื่องหมายการค้า ลีวายส์, แรงเล่อร์, แม็กซ์ และนูดี้ รวม 3,297 ตัว มูลค่าของกลางประมาณ 1,400,000 บาท และจับกุมนายสุขกิจ สุขนันทพร เจ้าของร้าน

ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.อ.พินิจ นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นแหล่งจำหน่ายและเก็บเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้ารวม 5 จุด ได้แก่ ร้านลักกี้ช็อป และร้านลักกี้อันเดอร์แวร์ รวม 3 ร้าน ตั้งอยู่ชั้น 4 ของห้างแพลตตินั่มประตูน้ำ กรุงเทพฯ และสถานที่เก็บสินค้าที่บ้านเลขที่ 64/11 ซ.เจริญกรุง 24/1 แขวง/เขตบางรัก กรุงเทพฯ และบ้านเลขที่ 69/19 ซ.เจริญราษฏร์ 7 เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบเสื้อกีฬา เสื้อยืด กางเกงกีฬา กางเกงชั้นใน ถุงเท้าปลอมเครื่องหมายการค้ายี่ห้อดังหลายยี่ห้อ เช่น อดิดาส ไนกี้ และคาลวินไคลน์ กว่า 73,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท และจับกุมนางชาลิสา โชคสุวรรณรักษา เจ้าของร้าน ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 กรณีข้างต้น เป็นความผิดฐาน เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ การจับกุมปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและดีเอสไอที่เน้นการปราบปรามในพื้นที่สีแดงที่มีการละเมิดสูง มีลักษณะเป็นแหล่งผลิต แหล่งเก็บ แหล่งจำหน่าย โดยผู้กระทำผิดเป็นตัวการรายใหญ่ เนื่องจากปัญหาการละเมิดดังกล่าวทำให้ประเทศไทยถูกสหรัฐอเมริกาประเมินสถานะการคุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนของประเทศ และรัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการดำเนินการป้องกันและปราบปราม เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากบัญชีดังกล่าวโดยเร็ว

ที่มา ข่าวสด