วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บ้านห้วยเดื่อ หมู่ 16 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง มีชาวบ้าน 5 ชีวิต อยู่กันอย่างยากลำบากในบ้านผุพัง ต้องหาเช้ากินค่ำ พยายามเก็บเงินที่ได้จากการรับจ้างมากว่า 10 ปี เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ แต่สร้างได้แค่โครงเสา จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกหลานได้มีบ้านอยู่ในบั้นปลายชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

พบนายอินหวัน เตชะเหล็ก อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 บ้านห้วยเดื่อ หมู่ 16 ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง เจ้าของบ้าน พบว่าสภาพบ้านมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 6 เมตร ยกพื้นสูง 50 ซม. ทำเสาสั้นด้วยเศษตอไม้และเศษตอมะพร้าว ใช้เศษไม้ทำเป็นคานพื้นบ้าน หลังคาเดิมมุงด้วยหญ้าคา ต่อมาจึงมุงหลังคาด้วยกระเบื้องเก่าที่มีคนนำมาบริจาคให้กว่า 20 ปีมาแล้ว พื้นบ้านปูด้วยฟากไม้ไผ่ และฝาบ้านล้อมรอบด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ ในสภาพตัวบ้านเอียงที่ไม่แข็งแรง ต้องค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้าน สภาพภายในบ้านกั้นทำเป็นห้องนอนขนาดเล็ก ขนาดกว้าง 2×2 เมตร เพื่อให้หลานสาวนอน นอกนั้นปล่อยเป็นที่โล่งทำเป็นที่เก็บข้าวของ เสื้อผ้าและที่หลับนอนเป็นที่เดียวกัน โดยที่นอนเป็นฟูกเก่าที่ทั่วไปใช้การไม่ได้แล้ว มีหมอนใบเก่าและมุ้งเก่าๆ ไว้กางนอนสภาพหลังคากระเบื้องมีรูรั่วและฝาบ้านเป็นรูถ้าฝนตกมาก็นอนไม่ได้ นอกจากนั้นยังเสื้อผ้าเก่าๆ ที่มีคนบริจาคมาให้ และทีวีเก่าเครื่องหนึ่งที่ตั้งไว้ในห้องนอนเท่านั้น ส่วนห้องน้ำและห้องครัวแยกไว้หลังบ้านโดยนำสังกะสีเก่ามาแปะเป็นฝากั้น รวมทั้งเครื่องครัวไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า มีหม้อ มีช้อน จานไม่กี่ใบเท่านั้น

นายอินหวัน เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่มานานกว่า 40 ปี จะพังแหล่มิพังแหล่ เพราะบ้านเริ่มเอียง เนื่องจากดินทรุด ปลูกบ้านตามมีตามเกิด โดยหาเศษไม้มาทำคานบ้านพอเป็นที่อยู่อาศัย เพราะไม่มีรายได้ ต้องทำงานรับจ้างทั่วไปได้ค่าแรงวันละ 100-200 บาท ถ้าวันไหนไม่มีงานให้ทำก็ไม่ได้เงิน จึงอยู่กันด้วยความลำบาก โดยบ้านดังกล่าวมีหลาน 2 คน กับลูกชายและนางวอน ใจมั่น อายุ 65 ปี ภรรยา รวมเป็น 5 คน ส่วนตนได้ไปรับจ้างเฝ้าสวนและบ่อปลาโดยนอนพักที่นั่นได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท ถ้าวันหยุดพักถึงจะมานอนที่บ้าน เพื่อดูแลหลาน

นายอินหวัน กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากรายได้จากการรับจ้าง ก็มีเพียงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 300 บาท และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนละ 600 บาท รวมเป็น 1,200 บาท สรุปแล้วเดือนหนึ่งมีรายได้เพียงเดือนละไม่เกิน 3,000 บาท แต่ก็ต้องประหยัดเงินไว้ซื้อข้าวสาร ค่าอาหารและให้ค่ารถ ค่าอาหารหลานสาวไปโรงเรียนวันละ 25 บาท เฉลี่ยเดือนละ 600 บาท

นอกจากนั้นยังมีค่าชุดนักเรียน ค่าสมุดหนังสือก็ต้องไปหยิบยืมเงินเขามา เวลาตนไปหาหมอก็ต้องเสียค่ารถ ทำให้เงินที่ได้มาค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนก็ไม่เหลือแล้ว รวมทั้งค่าน้ำประปาเดือนละ 100 บาท ส่วนค่าไฟฟ้าประจำเดือนไม่ได้เสีย เนื่องจากเดือนหนึ่งใช้ไม่ถึง 50 หน่วย และก็ไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามาก ใช้เปิดตอนมืดค่ำราว 1 ทุ่มวันละ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้แสงสว่างเวลากินข้าวเสร็จและหลานสาวทำการบ้านเสร็จ 2 ทุ่มก็นอนแล้ว ทีวีก็ไม่ได้ดู เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นก็ไม่มีเพราะไม่มีเงินเสียค่าไฟฟ้า ต้องเก็บเงินไว้เป็นทุนให้หลานสาวเรียนหนังสือ ส่วนบ้านหลังใหม่ที่จะสร้างก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหน

นายอินหวัน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในเดือนเม.ย.นี้ หลังจากหลานสาวเรียนจบ ป.6 ที่โรงเรียนบ้านจำค่ำ ต.บ้านเสด็จ จำเป็นต้องสอบเข้าเรียนต่อชั้น ม.ต้น โรงเรียนในเมืองลำปาง ก็ต้องส่งเสียเงินค่าใช้จ่ายในการศึกษาอีก ทั้งค่าชุด ค่าหนังสือเรียน ค่าเทอม เพื่อให้หลานได้เรียนหนังสือต่อ ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินมาจากไหน ตนและภรรยา รวมทั้งลูกชายต้องช่วยกันทำงานรับจ้างเก็บเงินไว้ให้หลานเรียน แต่ไม่รู้ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอายุมากแล้ว รายได้งานรับจ้างก็ไม่แน่นอนและกลัวว่าหลานสาวจะไม่ได้เรียนหนังสือต่อหากไม่มีเงินทุนส่งเรียน ซึ่งตนวิตกกังวลมาก เพราะไม่รู้จะไปติดต่อประสานขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานใด เนื่องจากไม่มีความรู้

สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเสื้อผ้า สิ่งของวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้หรือเงินโอนเข้าบัญชีชื่อ นายอินหวัน เตชะเหล็ก ธ.ออมสิน สาขาบิ๊กซี ลำปาง หมายเลขบัญชี 020211612047