ชงบอร์ดสลาก มี.ค.นี้ เคาะออกหวยรวมชุด พร้อมทำประชาพิจารณ์ ลั่นทำได้ทุกระบบตั้งแต่หวยชุด 5 ใบ จนถึง 20 ใบ แต่ไม่มีการเพิ่มโควตาพิมพ์80ล้านใบ ยันตลาดซื้อขายราคาเริ่มลง พบรวมชุดแค่ 2-3 ใบ แต่ราคาขายแตะ 100-120 บาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในวันที่ 21 มีนาคม 2561 จะมีการเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติการดำเนินการขายสลากแบบรวมชุด หลังคณะกรรมการบริหารจัดการสลากมีข้อสรุปชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินการจำหน่ายสลากชุดเอง เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท

โดยประเด็นสำคัญที่จะสรุปนำเสนออยู่ 4 ประเด็นหลัก คือ 1.จะอนุมัติจำหน่ายสลากชุดเองหรือไม่ 2.ปริมาณสลากชุดจะต้องมีสัดส่วนเท่าใด 3.ช่วงเวลาที่จะเริ่มจำหน่ายโดยตั้งเป้าไว้คือช่วงครึ่งปีหลัง และ 4.ขั้นตอนการดำเนินการออกหวย

ทั้งนี้ การออกสลากแบบรวมชุด เป็นรายละเอียดเชิงหลักการ ซึ่งหากบอร์ดอนุมัติก็จะมีเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ สอบถามความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องว่าอยากให้สำนักงานสลากดำเนินการอย่างไร รวมถึงการการคัดเลือกผู้ค้าที่จะมาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก โดยยืนยันว่า สำนักงานสลากฯดำเนินการได้ทุกระบบ เช่น ออกสลากใบเดียวแทน 5 ใบ หรือ 20 ใบ แต่เบื้องต้นจะไม่มีการพิมพ์สลากเพิ่มยังอยู่ในปริมาณ 80 ล้านใบต่องวด

“เราสามารถดำเนินการได้แทบทุกระบบ ก็คือจะเป็นการออกสลากใบเดียวแทน 5 ใบ แทน 10 ใบ แทน 20 ใบ แทน 2 ใบ 3 ใบ หรือจะออกอะไรต่างๆ เราสามารถดำเนินการได้ ตอนนี้จะอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสลากกินแบ่งรัฐบาล” นายธนวรรธ์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สถานการณ์ด้านราคาสลากเริ่มปรับลดลงแล้ว หลังมีการเข้มงวด และปรับระยะเวลาในการรับและจองสลากให้สั้นขึ้น ทำให้จำนวนสลากชุดมากกว่า 5 ใบลดลง เหลือรวมชุด 2 ใบ และ 3 ใบแทน ส่งผลให้ราคาสลากปรับลดลงจากเดิมเฉลี่ย 120-150 บาทต่อใบ เหลือ 100-120 บาทต่อใบ นอกจากนี้ยังพบปริมาณการจำหน่ายสลากใบเดียวในราคา 80 บาทเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนกรณีสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่างการฟ้องร้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากกระบวนการตัดสินคดีสามารถสรุปชี้ชัดได้ เชื่อว่าจะเป็นบรรทัดฐาน และเป็นหลักฐานสำคัญที่มีผลต่อการดำเนินคดี ซึ่งจะเป็นข้อเตือนใจให้กับคนที่จะอาจใช้แอบอ้าง แต่หากคดีนี้ยังไม่จบลง หรือ ชี้ชัดได้ว่าใครถูกผิดอาจจะเกิดการเลียนแบบ จะเกิดผลกระทบต่อบุคคลที่สาม