น่าสงสาร! ชะตากรรมช้างน้อย พลัดตกเขา ชาวบ้านช่วยชีวิตได้ พาตัวส่งคืน แต่แม่กลับไม่ยอมรับ (คลิป)

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 16/5 หมู่ที่ 10 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ทำการของ นายจรัญ รุ่งช่วง กำนันตำบลตะโก หลังรับแจ้งว่ามีลูกช้างป่าแรกเกิดตกจากภูเขาสูงชัน โดยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยชีวิตและนำมาเลี้ยงอนุบาลไว้

เมื่อไปถึงพบกับนายฐานะ ทองสมุย หน.ชุดเฝ้าระวังติดตามช้างป่าประจำอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว นายสามารถ เลาห์ประเสริฐ ปศุสัตว์อำเภอพะโต๊ะ กำลังให้นมกับน้ำเกลือ และคอยดูแลอาการของลูกช้างแรกเกิดอย่างใกล้ชิด

 

นายฐานะ กล่าวว่า ลูกช้างแรกเกิดเพศเมียตัวดังกล่าวมีน้ำหนักราว 200 กิโลกรัม โดยเมื่อช่วงประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนและอาสาติดตามเฝ้าระวังช้างป่า ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของแม่ช้างป่าเป็นเวลานานที่บริเวณภูเขาสูงชันเขตรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 10 กับหมู่ที่ 14 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก

จึงออกติดตามไปดูจนกระทั่งพบลูกช้างแรกเกิดเพศเมียพลัดตกลงมาจากภูเขาสูงชัน แต่ขณะที่ไปถึงแม่ช้างและโขลงช้างป่าทิ้งหายไปแล้ว

นายฐานะ กล่าวต่อว่า ตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้าวันใหม่ตนและทีมงานช่วยกันนำลูกช้างขึ้นมาไว้ที่ปลอดภัยบนพื้นที่ราบ และทำคอกกั้นไว้เพื่อรอให้แม่ช้างที่อยู่รวมกับโขลงซึ่งมีทั้งตัวผู้และตัวเมียรวมทั้งหมด 11 ตัว โดยช้างป่าโขลงนี้จะตระเวนหากินอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอใน จ.ชุมพร ได้แก่หลังสวน ทุ่งตะโก และสวี

แต่เมื่อแม่ช้างและโขลงช้างกลับมาที่ลูกของมันได้ส่งเสียงร้องเกรี้ยวกราด ปฏิเสธไม่ยอมรับลูกช้างน้อยให้เข้าโขลงแล้วจากไป จนกระทั่งผ่านไป 2 วัน ก็ไม่ยอมกลับมารับลูกของมันอีกเลย จึงจำเป็นต้องนำลูกช้างออกมาอนุบาลดูแลไว้ที่ข้างบ้านของกำนันดังกล่าว

เนื่องจากกลัวว่าหากปล่อยทิ้งไว้ในป่าลูกช้างอาจจะถูกสัตว์อื่นทำร้ายได้ พร้อมกับแจ้งไปยังนายสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาช่วยเหลือและหาวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไร

ด้านนายสามารถซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่คอยติดตามโขลงช้างป่า กล่าวว่า ตอนนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องอาหารให้กินได้เฉพาะนม นมที่ใช้ต้องเป็นนมสำหรับเลี้ยงลูกช้างเท่านั้น และการให้น้ำเกลือเพื่อไม่ให้ลูกช้างเกิดอาการอ่อนเพลีย เพราะยังมีอาการบาดเจ็บอยู่บ้างจากการกลิ้งตกลงจากเขา

นอกจากนั้นจะต้องเฝ้าระวังกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปสัมผัสกับตัวลูกช้าง ยกเว้นเฉพาะพี่เลี้ยงลูกช้างเท่านั้น ส่วนขั้นตอนต่อไปก็ต้องรอให้นายสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกำลังเดินทางมาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์