เขื่อนจีนลดปล่อยน้ำ ทำน้ำโขงเหือด หาดทรายโผล่กลางลำน้ำ เรือขนส่งเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ระดับแม่น้ำโขงในปัจจุบัน ตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ ชายแดน 3 ประเทศคือไทย-ลาวและเมียนมา ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปตลอดแนวว่าระดับน้ำเหือดแห้งลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปรากฎเห็นโขดหินและหาดทรายกว้างกลางแม่น้ำหลายจุด เรือบรรทุกสินค้า เรือโดยสารและเรือท่องเที่ยวทั่วไปไม่สามารถแล่นไปมาได้โดยสะดวกเหมือนเดิม

โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำเกิดหาดทรายผุดขึ้นมาเป็นวงกว้าง ผู้ประกอบการเรือต้องนำไม้ต่อเป็นสะพานยื่นไปกลางแม่น้ำหลายสิบเมตร เพื่อให้ผู้โดยสารได้เดินไปขึ้นและลงเรือกลางแม่น้ำ ขณะที่ผู้ประกอบการเดินเรือทุกชนิดต้องสัญจรไปมาอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะโขดหินและหาดทรายที่อาจกระทบกับเรือเสียหายได้

ทางด้านศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง -แม่โขง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แจ้งข่าวถึงผู้ประกอบการเดินเรือของจีนครั้งล่าสุดตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วว่า ทางการจีนจะปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอัตรา 845 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้อยเมื่อเปรียบกับช่วงเวลาปกติหรือน้ำหลากที่มักจะปล่อยลงมาในอัตราประมาณ 1,200-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทางเขื่อนแจ้งว่าเพราะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนในอัตราแค่ 431 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 597 เมตรและระดับน้ำใต้เขื่อนอยู่ที่ 536.2 เมตรเท่านั้น

นายสุรนาท ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย เปิดเผยว่า ระดับน้ำในปัจจุบันมีความลึกเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร และคาดว่าสภาพเช่นนี้จะมีไปถึงช่วงปลายเดือนก.พ. หรือราวช่วงต้นเดือน มี.ค.2561 จากนั้นน้ำก็จะลึกขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป

ด้านนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานเครือข่ายบิสคลับ 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานกิตติมศักดิ์หอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการขนส่งสินค้าทางเรือแม่น้ำโขงยังทำได้ไม่สะดวกเพราะระดับน้ำตื้นเขินในฤดูแล้ง ทำให้ผู้ประกอบการก็กำลังรอคอยการพัฒนาการพัฒนาและให้เข้าสู่ฤดูน้ำหลากต่อไป

ดังนั้นเครือข่ายฯ จึงได้ร่วมกับบิสคลับประเทศไทย กรมพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินโครงการการทำการตลาดเชิงรุกผ่านออนไลน์ เพื่อขนส่งสินค้าไปทางบกทางถนนอาร์สามเอ อ.เชียงของ จ.เชียงราย-ลาว-จีน เข้าสู่ด่านโมฮาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน

เพราะทางการจีนกำหนดนำเข้าและคิดอัตราภาษีแบบ “ไห่เถา” ซึ่งกำหนดให้มีการซื้อขายผ่านอี-คอมเมิร์ช ผู้ซื้อสินค้าครั้งละไม่เกิน 2,000 หยวนต่อครั้ง หรือปีละไม่เกิน 20,000 หยวน ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 70 ของอัตราปกติ

โดยทางบิสคลับกำลังอยู่ระหว่างจัดอบรมเพื่อสร้างช่องทางออนไลน์กับประเทศจีน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้ช่องทางนี้ในการค้าขาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมรวมทั้งวิสาหกิจชุมชนต่อไป