ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 2561 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้นำสลากปลอมมาขึ้นรางวัล ที่ จ. สมุทรสาคร ทำให้มีผู้เสียหาย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จากการสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นการนำสลากที่ตัดแปะแก้ไขตัวเลขและคิวอาร์โค้ด มาขึ้นเงินรางวัล ประกอบกับมีการนำมาขึ้นรางวัลหลายใบพร้อมกัน ทำให้ผู้รับซื้อรางวัลอาจไม่ได้ตรวจสอบสลากทุกใบอย่างละเอียด จึงขอให้ผู้มีอาชีพรับซื้อรางวัลโปรดใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบสลากด้วยความรอบคอบ สำนักงานสลากฯ จะเร่งตรวจสอบ หากพบผู้กระทำผิดก็พร้อมจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมาย
โฆษกคณะกรรมการสลากฯ กล่าวว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพมากขึ้น ขอให้ผู้ประกอบอาชีพรับซื้อรางวัล ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบสลากอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น โดยในเบื้องต้นให้ใช้วิธีการเปรียบเทียบกับสลากของจริงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดนั้นๆ เพื่อหาความแตกต่างกับสลากที่ต้องการตรวจพิสูจน์ เช่น ตรวจดูคุณลักษณะทั่วไปของสลาก คือความหนาบางของกระดาษ รูปภาพสลาก ขนาดของตัวเลข และขนาดของตัวอักษร และตรวจสอบคุณลักษณะพิเศษของสลาก โดยให้สังเกตว่ากระดาษที่ใช้พิมพ์สลากจะมีลายน้ำในเนื้อกระดาษเมื่อส่องกับแสงไฟสีขาว หรือแสงสว่างจะมองเห็นลายน้ำรูปนกวายุภักษ์ในเนื้อกระดาษ และเมื่อส่องกับแสงไฟสีม่วง (แสงยูวี) จะมองเห็นเส้นไหม และเส้นที่พาดผ่านตัวเลขมีลักษณะเรืองแสง หรืออาจใช้น้ำสะอาดมาถูบนสลาก ซึ่งหมึกที่ใช้พิมพ์ตัวเลขสลากของจริงเมื่อถูกน้ำจะไม่ละลาย
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีตรวจหาร่องรอยการแก้ไข หรือการตัดแปะตัวเลขบนสลากได้โดยใช้กล้องหรือแว่นขยายส่องบริเวณจุดที่สงสัยว่าจะมีการแก้ไข เช่น บริเวณหมายเลขสลาก หรืองวดวันที่ โดยนำตัวเลขจากฉบับอื่นมาปะทับบนตัวเลขที่ไม่ต้องการ หรือตัวเลขที่ไม่ถูกรางวัลเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล รวมทั้งการแก้ไขด้วยวิธีขูด ลบ ลอก ตัวเลขเดิมที่ไม่ต้องการออก แล้วนำตัวเลขจากสลากฉบับอื่นมาปะแทนเพื่อให้ได้หมายเลขตรงกับสลากที่ถูกรางวัล เป็นต้น
สำหรับผู้กระทำหรือผู้นำสลากปลอมแปลงหรือแก้ไขตัวเลขไปใช้ขอรับรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือที่อื่นใด มีความผิดอาจถูกดำเนินคดีอาญา ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาทด้วย
ที่มา ข่าวสดออนไลน์