วันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางยุพิน วงค์สุโท อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 74 ม.7 ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมลูกๆมาปลูกเพิงพักกลางทุ่งนา โดยอยู่ในเขตรอยต่อ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กับ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ส่วนไร่อ้อยกับเพิงพักอยู่ในท้องที่เขต บ้านหนองโน ม.6 ต.ชมสะอาด อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ห่างจากชุมชนประมาณ 1 กม. ซึ่งประกอบอาชีพทำน้ำอ้อยก้อนโบราณขาย

นางยุพิน เล่าว่า ในหนึ่งวันผลิตได้ 24 กิโลกรัม โดยมีลูกค้ามารับถึงที่ กะทอละ 1,000 บาท คิดเป็นเงินวันละ 4,000 บาท อาชีพนี้ทำน้ำอ้อยก้อนสืบทอดมาสมัยคุณพ่อ คุณแม่ อีกทั้งช่วงนี้ไม่พอขาย เนื่องจากเป็นเทศกาลข้าวจี่ของชาวอีสานดังคำผญาโบราณพรรณาไว้ดังนี้ “เดือนสามค้อย เจ้าหัวคอยปั้นข้าวจี่ ข้าวจี่บ่ใส่น้ำอ้อย จัวน้อยเช็ดน้ำตา” โดยขั้นตอนการผลิต และ เทคนิคทำให้น้ำอ้อยก้อนทำง่ายคือ

1. เลือกต้นอ้อยจากไร่ 10 ต้น = 1 มัด อ้อยลำสด และ ยอดไม่ตาย หากยอดตายจะทำให้น้ำอ้อยมีรสเปรี้ยวไม่หวาน
2. นำลำอ้อยที่เลือกมาเข้าหีบ หรือ อิ้ว เพื่อบีบเอาน้ำ
3. กรองน้ำอ้อยที่ได้มาต้ม เคี้ยว ในเตาไฟเดือดๆประมาณ 1-2 ชม. จนน้ำอ้อยเริ่มข้น
4. ตักน้ำอ้อยที่ต้ม และข้น มาปรุงรสด้วยงา และขูดเนี้อมะพร้าวโรยเพื่อเพิ่มความหอมอร่อย
5. สุดท้ายนำน้ำอ้อยที่ปรุงผสมงา เทลงพิมพ์ ใช้ไม้ปาดให้เรียบ เทลงเป็นก้อนบรรจุลงในกระทอ เป็นเสร็จพร้อมจำหน่าย