ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยทและมอบนโยบายการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ได้เร่งรัดให้รฟท. ยกระดับคุณภาพการให้บริการ โดยเร่งรัดทำโครงการเดินรถไฟด้วยระบบไฟฟ้า หรือรถไฟไฟฟ้า ทดแทนการเดินรถแบบระบบดีเซล เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งจากการผลการศึกษาเบื้องต้น รฟท. แจ้งว่าจะทำโครงการรถไฟไฟฟ้าในจำนวน 4 เส้นทาง เชื่อม 4 ภูมิภาค คือ 1. กทม.-นครสวรรค์ 2. กทม.-นครราชสีมา 3. กทม.-หัวหิน และ 4. กทม.-พัทยา โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติงบประมาณในการออกแบบก่อสร้างประมาณ 100-200 ล้านบาท จากนนั้นจึงจะมาจัดลำดับความสำคัญว่าจะเริ่มก่อสร้างเส้นทางไหนก่อน
รายงานข่าวจากรฟท. แจ้งว่า การดำเนินโครงการรถไฟไฟฟ้า 4 เส้นทาง เป็นไปตามแผนวิสาหกิจของการรถไฟฯ ระหว่างปี 2560- 2564 ซึ่งจากผลการศึกษาระบุว่าโครงการรถไฟไฟฟ้าทั้ง 4 เส้นทาง มีความเหมาะสมในการดำเนินงาน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 100,907.57 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเดินรถด้วยระบบไฟฟ้ารวม 885 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 1. เส้นทาง กทม.-นครสวรรค์ เส้นทาง เริ่มจาก ชุมทางบางซื่อ-ชุมทางบ้านภาชี-ปากน้ำโพ ระยะทางรวม 243 ก.ม. มีสถานีหยุดรถ 57 แห่ง
2. เส้นทางกทม.-นครราชสีมา ช่วงชุมทางบ้านภาชี-ชุมทางแก่งคอย-ชุมทางจิระ ระยะทาง 176 ก.ม. มีสถานีหยุดรถ 31 แห่ง 3. เส้นทางกทม.-หัวหิน ช่วง ชุมทางบางซื่อ-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 148 ก.ม. มีสถานีหยุดรถ 46 แห่ง แห่ง และ 4. เส้นทาง กทม.-พัทยา ช่วงชุมทางบางซื่อ-มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-พัทยา ระยะทาง 159 ก.ม. สถานีหยุดรถ 37แห่ง
“การยกระดับการเดินรถไฟดีเซลให้เป็นการเดินรถระบบไฟฟ้า สำหรับ 4 เส้นทางนำร่อง การรถไฟฯ จะต้องใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 100,907.57 ล้านบาท เพราะต้องมีการลงทุนซื้อหัวรถจักรไฟฟ้าใหม่มาวิ่งแทนรถดีเซล, ต้องปรับปรุงระบบบเดินรถ และติดตั้งระบบไฟฟ้าป้อนเข้าระบบ ติดตั้งระบบอาณัติสัญญา รวมทั้งสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟไฟฟ้าด้วย”
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรถไฟไฟฟ้าทั้ง 4 เส้นทาง จากการศึกษาพบว่ามีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจรวมทั้ง 4 เส้นทางค่อนข้างดี อยู่ที่ 13.84% โดยสามารถเรียงลำดับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากมากมาหาน้อยได้ดังนี้ 1. เส้นทางกทม.-หัวหิน อยู่ที่ 13.64% รองลงมาได้แก่ กทม.-โคราช อยู่ที่ 13.19% , กทม.-พัทยา 10.55% และ เส้นทาง กทม.-นครสวรรค์ อยู่ที่ 7.01%
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่ารฟท. กล่าวว่า รถไฟฯ จะเสนอโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และเส้นทางบ้านไผ่-นครพนม มูลค่ารวม 1.4 แสนล้านบาท ให้ ครม. เห็นชอบเดือนมี.ค. นี้ สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 ที่เหลืออีก 7 เส้นทาง จะเร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมและทยอยเสนอให้ ครม. พิจารณาตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค.