
ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ผมไม่เคยคิดเลยว่ามิชลินจะมาสนใจคนอย่างผม คนที่เรียนรู้ทำอาหารด้วยตัวเอง คนที่เคยนอนอยู่ตามถนนตั้งแต่อายุ 19 และเริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กล้างจาน ผมคิดว่า
มิชลินจะให้ดาวแต่เชฟที่ทำงานอยู่ตามโรงแรมหรูๆ หรือเชฟที่ผ่านการเรียนจากเชฟระดับปรมาจารย์ แต่นี่มันกลับตรงกันข้าม มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มาก” อลันในวัย 43 บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีที่ไปสัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อลันเล่าว่า เขาสนใจชอบดูรายการทำอาหารทางทีวีตั้งแต่ยังเด็ก มากกว่าจะชอบดูการ์ตูนเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน และเริ่มมีโอกาสได้เข้าครัวทำอาหารตอนเป็นทหารเกณฑ์ในเลบานอน ซึ่งหัวหน้าหน่วยทหารที่เขาสังกัดอยู่ยังติดใจฝีมือของเขากระทั่งให้เขาเป็นพ่อครัวประจำตัว
แต่อลันก็ว่า เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มีโอกาสมาเป็นเชฟในฝรั่งเศส หลังจากได้อพยพจากบ้านเกิดมาอยู่ที่ปารีสตามพ่อแม่ แต่ก็เหมือนโชคชะตาเป็นใจ เมื่อเชฟใหญ่ของร้านอาหารที่เขาทำงานล้างจานอยู่ถูกมีดบาดข้อมือ กระทั่งต้องเข้าโรงพยาบาล คืนนั้นอลันจึงได้แสดงฝีมือให้เจ้าของร้านได้เห็น
“ผมทำงานหลายอย่าง ตอนกลางวันผมทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง พอกลางคืนผมก็ทำงานเป็นคนส่งพิซซ่าและล้างจาน กระทั่งมีอยู่คืนหนึ่งเชฟถูกมีดบาดและต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นไม่มีใครถามหรือขอให้ผมทำอาหาร แต่ผมกระโดดเข้ารับหน้าที่เองเลย ที่ร้านเรามีโต๊ะอยู่ 14 โต๊ะ ผมจัดการทำอาหารเสิร์ฟลูกค้าในวันนั้น ซึ่งลูกค้าทุกคนต่างแฮปปี้ กระทั่งเจ้าของร้านเข้ามาถามผมว่า เธอทำอาหารได้เหรอ ผมก็ตอบว่า ได้”
อลันซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ของตัวเองเล่าว่า เหตุผลเดียวที่เขาชอบทำอาหารก็เพราะ “ผมอยากทำให้ผู้คนมีความสุข”
พ่อครัวมือระดับมิชลิน สตาร์ 1 ดาว เล่าว่า หลังจากได้ดาวจากมิชลิน ไกด์ ร้านอาหาร “อลัน จีม” ของเขาก็มีลูกค้าโทรมาสั่งจองโต๊ะ ดังติดต่อกันไม่หยุด กระทั่งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็มีคิวเต็มไปถึง 3 สัปดาห์
อลันเล่าว่า การที่เขาได้มีโอกาสทำงานกับพ่อในร้านขายของชำตั้งแต่อายุ 10 ขวบทำให้เขาได้ซึมซับเรื่องการทำมาค้าขาย ขณะที่แม่ของเขาได้สอนให้เขารู้จักมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์และรักในการทำอาหาร
