ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 51-84 มคก./ลบ.ม. เกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกสถานี รวม 6 สถานี ได้แก่ เขตบางนา มีค่าฝุ่น 66 มคก./ลบ.ม. แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง มีค่าฝุ่น 65 มคก./ลบ.ม. ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน มีค่าฝุ่น 68 มคก./ลบ.ม. ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี มีค่าฝุ่น 84 มคก./ลบ.ม. และริมถนนลาดพร้าว เขตทองหลาง มีค่าฝุ่น 65 มคก./ลบ.ม. และริมถนนพญาไท เขตราชเทวี มีค่าฝุ่น 51 มคก./ลบ.ม.
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดี คพ. เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายธารา บัวคำศรี ผอ.ประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยกล่าวถึงปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นใน กทม. ขณะนี้ว่า ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ที่บางนาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ อยู่ที่ 61.87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อนำเอาความเข้มข้นฝุ่นพิษดังกล่าวไปหาดัชนีคุณภาพอากาศ ตามวิธีการของสหรัฐอเมริกา ผลคืออยู่ในระดับสีแดง ซึ่งแสดงว่าคุณภาพอากาศมีอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นวิกฤตด้านสุขภาพของประชาชน ถ้ารัฐไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจะลงมือติดตามตรวจสอบและรายงานคุณภาพอากาศกันเองนั้น
ทางกรมควบคุมมลพิษขอชี้แจงว่า การกำหนดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ของแต่ละประเทศที่ใช้แถบสีในการรายงาน จะมีความสัมพันธ์กับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศที่แต่ละประเทศกำหนด ซึ่งการกำหนดค่ามาตรฐานจะพิจารณากำหนดจากข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาของประเทศ สภาพเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งค่ามาตรฐานระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกายังมีความแตกต่างกัน โดยประเทศไทยกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม) ขณะที่ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของสหรัฐอเมริกาไม่เกิน 35 มคก./ลบ.ม. ประกอบกับระดับการแบ่งช่วงค่าและความหมายของสีที่ใช้ระหว่างดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยและของสหรัฐอเมริกามีความแตกต่างกันเช่นกัน ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้
นางสุณี กล่าวต่อว่า หลังจากพบว่า PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน คพ.ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กองบังคับการตํารวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 6 (นนทบุรี) และ ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกำหนดและดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยการเฝ้าติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์ผ่านช่องทางต่างๆ การให้ความรู้ สร้างความเข้าใจกับสื่อมวลชนและประชาชน ควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ โดยเพิ่มจุดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมาย
นางสุณี กล่าวอีกว่า การเข้มงวดการตรวจสภาพรถโดยสาร ตรวจสอบตรวจจับ การจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กรุงเทพมหานครได้ปฏิบัติตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นการลดมลพิษจากการจราจร การลดฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง การลดฝุ่นละอองจากการเผาและกิจการต่างๆ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดถนน และการขอความร่วมมือจากภาคประชาชนดูแลรักษารถยนต์ของตนเองให้อยู่ในสภาพดี ช่วยลดการนำยานพาหนะส่วนบุคคลเข้าในเขตเมือง ให้ใช้รถร่วมกัน “ทางเดียวกันไปด้วยกัน” (Carpool) การใช้รถขนส่งสาธารณะ รวมทั้งการงดการเผาขยะ ใบไม้ กิ่งไม้
นางสุณี กล่าวด้วยว่า ด้านมาตรการดูแลสุขภาพ ให้ประชาชนหลีกการสัมผัสฝุ่นละอองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำ เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ลดการใช้รถยนต์และการเผาขยะ ซึ่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังและรายงาน 4 โรคสำคัญ ได้แก่โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง ที่อาจเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก
และให้เจ้าหน้าที่ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงในวันที่มีค่าฝุ่นสูง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ เนื่องจากปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐานไม่ได้มีค่าสูงตลอดเวลา และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จากการเผยแพร่ เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ แฟนเพจเฟสบุ๊กกรมควบคุมมลพิษ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์