จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ ฟาร์มหนูนากาฬสินธุ์ ได้โพสต์คลิปสาวน้อยจับหนูนาโชว์ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังอย่างมาก นอกจากนี้ยังทำให้มีผู้สนใจสั่งซื้อหนูนาจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวได้เดินทางบุกไปเปิดฟาร์มหนูนากาฬสินธุ์ชื่อดังทันที โดยพบว่าอยู่ในเขตพื้นที่ ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งฟาร์มหนูนากาฬสินธุ์ มีความแปลกไม่เหมือนใครเพราะเป็นการเลี้ยงในท่อซีเมนต์ ใต้ถุนบ้าน ยุ้งฉาง เรียกว่าเป็นการลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนสูง จนทำให้เจ้าของฟาร์มได้วางแผนจะขยายฟาร์มเลี้ยงหนูนาเป็นอาชีพหลัก

วันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 9 ม.3 ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พบ น.ส.อารญา สำราญบุญ หรือน้องอ้อม อายุ 28 ปี เจ้าของฟาร์มหนูนากาฬสินธุ์สุดสวย ที่ปรากฏในคลิปดังในโลกออนไลน์ และนายวิชัย ยานประสาท หรือน้องกล์อฟ อายุ 28 ปี เป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว โดยทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่เริ่มต้นเลี้ยงหนูนาจากการที่ฝ่ายสามีชื่นชอบการกินหนูนา ส่วนฝ่ายหญิงชอบเลี้ยงสัตว์ จึงติดต่อซื้อหนูนาจากเพื่อนมาเลี้ยง กระทั่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งฝ่ายหญิงได้ลาออกจากงานประจำเพื่อเริ่มต้นทำฟาร์มหนูนาอย่างจริงจัง โดยสามีจะใช้เวลาว่างมาช่วยวางแผนการจัดการระบบฟาร์ม ทั้งระบบการให้น้ำ การทำความสะอาด และการขยายฟาร์ม เพื่อรองรับการเพาะพันธุ์เพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีลูกค้าแวะเวียนไปอุดหนุนหนูนาถึงฟาร์มจำนวนมากในแต่ละวัน

นายวิชัย กล่าวว่า ตนสั่งหนูนาของเพื่อนมาไว้ 10 ตัว ตั้งใจว่าจะเอารับประทาน โดยขังไว้ในตุ่มน้ำจนหนูเริ่มออกลูกขยายพันธุ์จำนวนมาก จึงเริ่มทดลองเลี้ยงแบบระบบฟาร์ม ซึ่งศึกษาจากเว็บไซต์ ต่างๆ รวมถึงขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ลองผิดลองถูกเรื่อยมา และต้องขอบคุณเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ที่กระหน่ำแชร์ กดไลค์ เพจฟาร์มหนูนากาฬสินธุ์อย่างล้นหลาม คาดไม่ถึงว่าจะโด่งดังได้ขนาดนี้ โดยจะจำหน่ายเฉพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ไม่ขายเนื้อหนู ในอานาคตอาจจะพัฒนา ปรับปรุงให้เป็นสากลมากขึ้น โดยเฉพาะการจำหน่ายหนูเนื้อโดยมีกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยและยิ่งไปกว่านั้นคือการทำให้เป็น OTOP เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือขึ้นห้างเหมือนเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ

 นายวิชัย กล่าวต่อว่า เมื่อเรานำเสนอผ่านโซเชียลทำให้รู้ว่าหนูนา เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก ทั้งสนใจที่จะทำฟาร์มเลี้ยงและนำไปบริโภค ขณะที่เรายังเป็นวัยรุ่นยังกลายเป็นแรงบันดาลใจของน้องๆและเพื่อนๆ ที่คิดจะเริ่มทำอาชีพอย่างจริงจัง อีกทั้งยังพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยใกล้เคียงกับเรามาหาที่ฟาร์ม มาซื้อ ขอความรู้คำแนะนำ ส่วนผู้ใหญ่ก็มีไม่น้อย ส่วนมากจะเดินทางมาจากต่างจังหวัดมาซื้อที่ฟาร์มเลย เพราะทางเรายังไม่จัดระบบส่งตรงถึงลูกค้า เพราะอยากให้ลูกค้ามาเลือกตัวที่ชอบที่หน้าฟาร์มเลยจะดีกว่า

ด้านน.ส.อารญา กล่าวว่า หนูนาของฟาร์มเป็นสายพันธุ์หนูพุก หรือหนูนาแผงใหญ่ ที่จะมีตัวขนาดใหญ่ เลี้ยงในท่อซีเมนต์ขนาด 80 x 40 ซม. วางเรียงเป็นแนวตั้ง 2 ท่อ ตอนนี้ในฟาร์มมีหนูประมาณ 200 -300 ตัว ที่แยกระบบเลี้ยงในท่อและบ่อซีเมนต์ใหญ่ ส่วนที่เลี้ยงในท่อจะใช้ท่อด้านล่างจะปิดส่วนด้านบนใช้กระเบื้องปิด ภายในจะเดินระบบน้ำเตรียมเอาไว้ให้หนูกิน เป็นส่วนคัดแยกหนูนาอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป หนูนาแรกคลอดจะแยกไว้ในตะกร้าโดยป้อนนมแพะ หรือนมวัวแดงให้กิน เมื่อโตขึ้นจะจับหนูอาบน้ำด้วยแชมพูที่มีกลิ่นหอม ก่อนจะจับแยกมาลงท่อเพื่อเตรียมจำหน่าย ส่วนในบ่อใหญ่จะเป็นหนูรุ่นอายุ 2 เดือนขึ้นไป ส่วนนี้จำอิฐบล็อคเจาะรูเป็นโพรงให้หนูอาศัยที่จะทำเป็นล็อกเพื่อแยกคอกไว้ ส่วนนี้จะเป็นคอกผสมพันธุ์ด้วย สำหรับหนูนาจะเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน สามารถจับจำหน่ายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้แล้ว โดยขายอยู่ที่คู่ละ 500 – 900 บาท แบ่งราคาจากอายุของหนูโดยได้เริ่มเปิดเพจและเปิดจำหน่ายหนูนามาในเดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา

“หนูนาที่เลี้ยงในฟาร์ม จะจัดการระบบอย่างดี โดยเฉพาะความสะอาดหนูทุกตัวที่นี่จะถูกจับอาบน้ำด้วยแชมพูที่มีกลิ่นหอม นอกจากความสะอาดแล้วยังพบว่าลดการกัดกันของหนูอย่างได้ผล สามารถเถียงเลยว่าหนูนาที่นี่สะอาดแน่นอน ขณะที่การให้อาหารจะมีหัวอาหารหมูเล็ก เป็นส่วนผสมเพียงเล็กน้อย มันสำปะหลังเป็นอาหารหลัก รวมถึงข้าวเปลือก หญ้า และพืชต่าง ๆ ที่หาได้ตามท้องถิ่น จากการเลี้ยงหนูนามาระยะหนึ่งพบว่าหนูนานอกจากจะเลี้ยงง่าย เติบโตไว ยังพบว่าอัตราการตายมีน้อยมาก รวมถึงกลิ่นมูลสัตว์มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้ได้ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในฟาร์มหนูนา ตลอดทั้งวันจากเดิมที่เลี้ยงในท่อประมาณ 10 ท่อใต้ยุ้งฉางของญาติและบ่อขนาดใหญ่ ตอนนี้ทางครอบครัวและแฟน ได้เริ่มขยายฟาร์มเพื่อขยายพันธุ์หนูนาในฟาร์มให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เป็นธุรกิจครอบครัวที่ค่อยๆทำ ค่อยๆสร้าง ตอนนี้ทางฟาร์มมียอดจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตั้งแต่เดือน สิงหาคมจนถึงปัจจุบันเกือบ 100 คู่แล้ว ก็คิดว่าจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ” น.ส.อารญา กล่าว