ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สำหรับสถิติคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ปี 2553-2561 มี 16 คดี ยึดสัตว์ป่าของกลางได้ 152 ตัว และเป็นซากสัตว์ป่า 24 ซาก มีการตรวจยึดได้มากสุดในปี 2553 จำนวน 111 ตัว และปี 2554 จำนวน 41 ตัว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ภาพรวมทั้งประเทศตั้งแต่ปี 2553-2561 มีคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าเกิดขึ้นรวม 4,790 คดี มีผู้กระทำผิด 5,370 คน ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง 108,245 ตัว ตรวจยึดซากสัตว์ป่าของกลาง 18,892 ซาก รวมน้ำหนักซากสัตว์ป่าของกลาง 31,315 กิโลกรัม และเฉพาะในปี 2561 มีคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่าเกิดขึ้นแล้ว 122 คดี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ สัตว์ป่าที่ตรวจยึดได้ส่วนมากเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กระจง เก้ง นก เป็นต้น ส่วนการล่าสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น เสือโคร่ง เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าตะวันตกแถบ อ.อุ้มผาง และป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งคนที่เข้ามาล่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หรือชาวต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านที่ลักลอบเข้ามาเพื่อล่าเสือโคร่งโดยเฉพาะ
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการล่าเสือดำเพิ่งพบในกรณีกลุ่มของนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ที่ปฏิบัติงานได้อย่างเข้มแข็ง