ไฟเขียวนำเข้ากุ้งขาวอินเดีย แปรรูปแช่แข็ง 1 ปี 50,000 ตัน

คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทยไฟเขียว ให้สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยนำเข้ากุ้งขาวจากอินเดีย 5 หมื่นตันใน 1 ปี วางเงื่อนไขห้ามนำเข้าช่วงผลผลิตออก และราคาต้องไม่ต่ำกว่า กก.ละ 120 บาท ดีเดย์เริ่มช่วงครึ่งปีหลังนี้

รายงานข่าวจากกรมประมง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวแทนสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยได้เสนอเรื่องขอนำเข้ากุ้งขาวแวนนาไมจากประเทศอินเดีย 5 หมื่นตัน เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทย ที่มีนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เป็นประธาน

เนื่องจากผลผลิตกุ้งขาวภายในประเทศไม่เพียงพอต่อออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา ผลผลิตกุ้งเลี้ยงภายในประเทศมีประมาณ 4 แสนตันเท่านั้น เนื่องจากประสบกับภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ช่วงต้นปีทำให้ผลผลิตเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท เมื่อหักการบริโภคภายในประเทศ 1 แสนตัน เหลือแปรรูปเพื่อการส่งออกเพียง 3 แสนตัน อาจประสบปัญหาไม่มีกุ้งเพียงพอที่จะแปรรูปส่งออก อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้ผลผลิตกุ้งเลี้ยงของไทยจะเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยสมาคมกุ้งไทยคาดการณ์ว่าผลผลิตปี 2561 จะมีประมาณ 3.3 แสนตัน เพิ่มขึ้นเพียง 10%

รายงานข่าวกล่าวว่า ที่ประชุมที่มี นายบรรจง นิสภวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย เป็นตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจากทุกภาคของไทยยินยอมให้มีการนำเข้ากุ้งเลี้ยงจากประเทศอินเดียได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องนำเข้าภายใน 1 ปี มีการตรวจคุณภาพสารตกค้างและโรคระบาด ในช่วงที่มีการแปรรูปกุ้งต้องมีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อป้องกันโรคระบาดจากกุ้งที่นำเข้าออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

“คาดว่ากรมประมงจะประกาศรายละเอียดในการนำเข้ากุ้งขาวจากอินเดียในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพราะกรมต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจโรคระบาด โดยเฉพาะโรค IMNV จากไวรัสอันตรายที่บ่อเลี้ยงโดยตรง รวมทั้งสารตกค้าง ยาปฏิชีวนะตกค้างต่างๆ ที่อินเดีย ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจนาน 4-5 เดือน ดังนั้น การนำเข้าอาจยืดเยื้อไปจนถึงกลางปี 2562”

นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงกุ้งในไทยยังมีเงื่อนไขว่า ในช่วงที่ผลผลิตกุ้งไทยออกสู่ตลาด 3 หมื่นตัน/เดือนขึ้นไป ห้ามมีการนำเข้า การนำเข้าต้องไม่กระทบต่อราคากุ้งขาวขนาด 100 ตัว/กก. ห้ามต่ำกว่า กก.ละ 120 บาทที่ตลาดกลางมหาชัยหรือสมุทรสาคร เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงของไทยต้องขาดทุนในการเลี้ยง นายบรรจง กล่าว

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในเดือนเมษายน 2558 ห้องเย็นและผู้ส่งออกกุ้งไทยได้เสนอต่อกรมประมงขอนำเข้ากุ้งขาวหลายแสนตัน เพื่อแก้เกมอินโดนีเซียและอินเดียดัมพ์ราคากุ้งขาวขายให้ผู้ซื้อประเทศต่างๆ ต่ำกว่ากุ้งขาวของไทย เนื่องจาก 2 ประเทศมีสาธารณูปโภครองรับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะห้องเย็นที่จะเก็บสต๊อกกุ้งไว้มีน้อยมาก เมื่อจับจากบ่อต้องรีบขาย ทำให้ราคากุ้งในตลาดโลกดิ่งลงทุกวัน ในขณะที่ผลผลิตกุ้งขาวของไทยมีไม่เพียงพอต่อความต้องการจากปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (อีเอ็มเอส) ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ มีผลผลิตกุ้งเลี้ยงเพียง 2 แสนตัน ในขณะที่ห้องเย็นในไทยมีกำลังการเก็บสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ ผู้ส่งออกและห้องเย็นของไทยพร้อมจะรับซื้อผลผลิตกุ้งจากเกษตรกรในไทยทั้งหมดแลกกับการนำเข้ากุ้ง

“ผู้ส่งออกกุ้งของไทยมองว่า การแก้ปัญหาต้องแก้แบบเป็นภาพรวมทั้งระบบ ไม่ใช่มองเฉพาะประเทศไทย ที่ผ่านมาผู้ส่งออกพยายามเสนอแนวคิดนี้ แต่ถูกผู้เลี้ยงโวยวาย กลัวว่าราคาจะตก ขณะที่กรมประมงพอคนเลี้ยงโวยก็ถอยแล้ว แต่ถ้าไม่ทำวิธีนี้ต่อไป อินโดนีเซียและอินเดียที่ตอนนี้ไม่มีห้องเย็น โรงงานแปรรูปเองจับได้เท่าไรต้องรีบเทขายหมด หาก 2 ประเทศสร้างห้องเย็นและโรงงานแปรรูปขึ้นมาได้ เราจะตายกันหมด ผู้ส่งออกตาย คนเลี้ยงก็ตาย เรียกว่าตายกันทั้งระบบ” แหล่งข่าวผู้ส่งออกกุ้ง กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 – วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561