ตลาดซาปา…แม่ค้าแห่งขุนเขา

ซาปา เป็นเมืองเล็กๆ ของเวียดนาม ติดชายแดนจีน ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของหมู่เขาทะมึน ซาปาเล็กและถ่อมเนื้อถ่อมตัว ก่อนนี้เป็นเมืองไกลเกินเอื้อม กว่าจะฝ่าเขาแต่ละลูกไปถึงได้ก็เนิ่นนาน

จนเมื่อผู้คนเริ่มกล่าวขานถึงเสน่ห์ของซาปา ของความงดงามของซิมโฟนีแห่งขุนเขา ของเมฆหมอกที่หลั่งไหลเคลียคลอตลอดปี รัฐบาลเวียดนามตระหนักว่าซาปาเป็นเพชร มิใช่เพียงเพชรยอดมงกุฎ หากแต่เป็นเหมืองเพชร

จึงสร้างถนนพิเศษยาว 200 กว่ากิโล เชื่อมฮานอยเมืองหลวง กับลาวไก จังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของซาปา จากฮานอยวิ่งมาตามทางด่วนนี้ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า ลองคิดดูเถิดว่าก่อนจะมีทางด่วนนี้จะใช้เวลากี่ชั่วโมง

สำหรับมาตรฐานไทย ซาปามี อากาศหนาวตลอดปี หน้าหนาวบนยอดเขาจะมีหิมะปกคลุม เป็นภูมิประเทศและภูมิอากาศแบบยุโรป เป็นสวิตเซอร์แลนด์ของอินโดจีน

สิ่งที่ซาปา ต่างจากยุโรป หรือสวิตเซอร์แลนด์คือ ใต้เงื้อมขุนเขาและเมฆหมอก ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บนั้น ซาปามีคนจนมากมาย

พูดให้ชัดกว่านั้น ซาปา “จน”

ในนับร้อยนับพันยอดเขาที่โอบล้อมซาปา ยอดเขาฟานซีปัน เป็นยอดที่สูงที่สุด จุดยอดสูง 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สูงที่สุดในอินโดจีน และสูงกว่าอินทนนท์ซึ่งมีความสูงที่ 2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ยอดเขาฟานซีปันถูกพิชิตโดยวิศวกรชาวรัสเซียเมื่อ 32 ปีก่อน ช่วงที่รัสเซียเรืองอำนาจในย่านนี้ ปัจจุบันยังมีอนุสาวรีย์ยืนยันข้างบน

นักท่องเที่ยวที่ต้องการพิชิตฟานซีปัน ใช้เวลาเดินจากหมู่บ้านที่ใกล้ยอดเขาที่สุดไปยังยอดเขาใช้เวลา 2 วัน

ฉันภาคภูมิใจที่จะประกาศว่าเพื่อนฉันเป็นหนึ่งในนั้น ส่วนฉันไม่เกี่ยว ฉันไม่เดิน ฉันเหนื่อย

2 ปีที่ผ่านมา การขึ้นไปถึงยอดฟานซีปัน ดำเนินไปได้สะดวกดายโดยกระเช้าไฟฟ้า ใช้เวลา 20 นาที เป็นกระเช้าไฟฟ้าแบบสลิง 3 เส้นที่ยาวที่สุดในโลกคือกว่า 6 กิโลเมตร และเป็นกระเช้าที่มีช่วงห่างระหว่างเสาแต่ละต้นยาวที่สุดในโลกคือกว่า 1 กิโลเมตร คือจากเสาต้นหนึ่งไปยังเสาอีกต้นหนึ่งไกลเกิน 1 กิโลเมตร ระหว่างที่แขวนอยู่กลางอากาศในระหว่างกิโลกว่าๆ นั่นก็เสียวซ่านกันไปตามระเบียบ แต่ทิวทัศน์ที่เห็นก็สวยจนลืมตาย

ซาปา มีนาขั้นบันได ที่กว้างใหญ่มหาศาลมากเมื่อเทียบกับบาหลี เป็นนาที่ทำกันบนที่สูงระดับเดียวกับนาขั้นบันไดบานาเว ที่มีชื่อเสียงของฟิลิปปินส์

เป็นนาข้าวที่ทำกันจริงจัง ไม่ได้มีไว้สวยอวดอย่างเดียว แต่ก็เป็นนาที่สวยเหลือจะกล่าวไม่ว่าจะในช่วงใด นาข้าวสวยเขียว สวยทอง หรือสวยน้ำตาลตามวันเวลาที่เปลี่ยนไป แต่สวยได้ทุกวัน นาข้าวจะลดหลั่นแต่งแต้มเขาทั้งเขา ลูกแล้วลูกเล่า ลูกแล้วลูกเล่า

แต่เบื้องหลังความสวยงามนั้น คือ ความจริงว่าพวกเขาทำนาได้เพียงปีละครั้ง อาศัยน้ำฟ้า หมดหน้านาพวกเขาซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเขา ทั้งม้งและไทยดำ โดยมีม้งเป็นกลุ่มใหญ่สุด จะลงมาค้าขาย ผู้หญิงจะเอาสินค้าที่ปักไว้ตลอดปีมาวางขายเรียงราย

เราเจอพวกเขาได้ใจกลางเมืองซาปา ในทุกตลาด ทุกหย่อมย่าน

พวกเขาเป็นสีสันของซาปา และเป็นลมหายใจ

ม้งเป็นคนขยันทำมาหากิน สู้ตาย ไม่ครนากับความยากลำบาก และผู้หญิงเป็นแรงสำคัญ

ม้งที่ฉันเห็นที่อเมริกา ตากหน้าฝ่าลมหนาวติดลบมาขายผักแถวบ้านที่ฉันอยู่

ม้งที่ขายผ้าท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บที่ซาปา เป็นม้งจากวิญญาณเดียวกัน

ที่ซาปา เด็กน้อยชาวม้งยืนกลางอุณหภูมิ 7 องศาเซลเซียส ปากพร่ำเรียกให้ผู้คนซื้อข้าวของที่ระลึก ภาษาที่เธอพูดนั้นฉันไม่รู้ว่าเป็นภาษาเวียดนามหรือภาษาม้ง มันพร่าเลือนฟังไม่ได้ศัพท์ จากสายตาเว้าวอนของเธอเท่านั้น ที่เราจะรู้ว่า เธอร้องขอ มิใช่เชิญชวน ให้ซื้อสินค้าของเธอ

สินค้าของผู้หญิงและเด็กม้งที่นำลงมาขายในซาปา ไม่แตกต่างกัน มันเหมือนกันไปทั้งหมด มันคือผ้าปักเป็นหลัก เพิ่มด้วยสร้อยปะหล่ำกำไลของพวกเขา อย่างที่เราเห็นในถิ่นม้งในหลายประเทศ รวมทั้งดอยสูงในเชียงใหม่และเชียงรายของไทย

ฉันสังเกตว่าสินค้าที่ขายโดยเด็กน้อยได้รับความสนใจจากผู้คนมากกว่า

ความไร้เดียงสา น่ารัก และไกลกว่านั้น คือ ความน่าสงสาร ของเด็กน้อยชาวม้ง ทำให้คนควักกระเป๋าสนับสนุนเธอๆ ง่ายขึ้น

แม่ชาวม้งบางคนเอาลูกขึ้นขี่หลัง เร่ขายสินค้าที่ระลึกที่เราเองไม่ค่อยอยากซื้อ แต่ต้องซื้อเพราะเห็นใจ

สินค้าของพวกเขาราคาไม่แพง ต่อรองได้ และควรต่อรองอย่างหนักเพราะเขาบอกต่ออย่างน้อย 2 เท่าตัว สินค้าเหมาะซื้อเป็นของฝาก ไม่ใช่สินค้าคงทนมากมายอะไร การผลิตยังพื้นฐาน การออกแบบยังอิงกับของเก่า ไม่มีการพัฒนามากนัก แต่มันเป็นสินค้าที่มีกลิ่นอายของซาปา

ดังนั้น จงอย่าเรียกร้องหรือตั้งความหวังสูงในระดับเดียวกับการซื้อสินค้าแพงๆ ในร้านหรู

ประกาศจากรัฐบาลเวียดนาม เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวเลิกสนับสนุนคนขายของบนถนน ซึ่งก็หมายถึงบรรดาแม่ๆ และเด็กน้อยชาวม้งเหล่านั้น

และหมายความว่าให้เราไปซื้อข้าวของในร้าน ซึ่งเป็นของคนที่มีทุนหนา มีความรู้ และแน่นอนว่า มีวิธีการที่จะเพิ่มราคาสินค้าขึ้นไปอีกหลายเท่า ผ่านการตกแต่งสวยหรู และท่าทีโอ่อ่า

รัฐบาลประเภทไหนกันปล่อยให้ประชาชนของตัวเองยากจน ดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยการยืนขาแข็งขายของท่ามกลางอากาศใกล้ติดลบ แล้วยังมีหน้ามาบอกไม่ให้คนไปสนับสนุน

ฉันสาปแช่งนโยบายแบบนี้ ฉันเรียกร้องให้ซื้อ สนับสนุน ช่วยเหลือ พวกคนตัวเล็กตัวน้อยขายของบนถนน พวกเขายากจนและต้องการการช่วยเหลือ พวกเขาอาจน่ารำคาญ แต่ก็เพราะเขาต้องการให้เราช่วยเขาอย่างเหลือเกิน

หากเราไม่ต้องการช่วยเหลือ แค่ผลักไสเขาออกไป กล่าวปฏิเสธด้วยเสียงดังและห้วน เท่านั้นเขาก็หลีกไกล

รัฐบาลเวียดนาม ยังไม่สามารถดูแลประชาชนของตนเองอย่างทั่วถึง คนจำนวนมากยังยากจนไล่ไปจนถึงอดอยาก การที่มาประกาศปิดทางทำมาหากินคนของตัวเองเยี่ยงนี้ น่าละอาย น่าประณาม และฉันประณาม

และฉันเรียกร้องให้ประณามรัฐบาล หรือใครก็ตามที่กระทำปากว่าตาขยิบเยี่ยงนี้

ถนนใจกลางเมืองซาปา จะมีแม่ค้าชาวม้ง หลากหลายอายุ ตั้งแต่รุ่นย่ายาย รุ่นแม่ รุ่นน้า ไปจนถึงรุ่นลูกหลานอายุไม่เกิน 10 ปี ที่แบกน้องอายุไม่กี่เดือนมาบนหลัง ยืนเรียกร้องขายสินค้า ท่ามกลางอากาศหนาวจัด ท่ามกลางฝุ่นควัน และท่ามกลางกลิ่นอาหารจากร้านอาหารเรียงรายสองข้างทาง มันเป็นอาหารที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้ลิ้มรส

หลังตลาดวายราว 4 ทุ่ม เด็กม้งที่เลิกจากการร้องเชิญชวนซื้อของมาค่อนคืน จะไปยืนรอหน้าร้านอาหารเหล่านั้น รอเศษอาหารที่จะถูกเททิ้ง ฉันเห็นร้านหนึ่งตวาดไล่เสียงดังลั่น พวกเขาเขยิบหนีอย่างหวาดกลัว

เสียงตวาดนั้นยังกังวานในโสตประสาทฉันทุกค่ำคืน

กล่าวให้ตรงกว่านั้น ฉันไม่เคยนอนหลับสนิทอีกเลย หลังจากได้ยินเสียงตวาดนั้น เห็นอาการถอยร่นอย่างหวาดกลัวของเด็กที่กำลังหนาวและหิวนั้น

ดังนั้น ฉันเรียกร้องทุกคนที่ไปเดินตลาดที่ซาปา จงสนับสนุนแม่ค้าแห่งขุนเขา และลูกๆ ของพวกเธอ ที่กัดฟันยืนต้านลมหนาวทุกค่ำคืน

 เพียงเพื่อจะขอให้พวกเราเห็นใจ และช่วยชีวิตแร้นแค้นให้ผ่านไปอีกวัน