ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเริ่มดำเนินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งผู้ที่ต้องการแสดงความประสงค์ สามารถเดินไปที่สถานที่ทางเขตหรืออำเภอกำหนดไว้ รวมถึงยังสาขาของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ให้เตรียมแค่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเพียงใบเดียว มีเวลาในการแจ้งความประสงค์ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เอกสารที่จะได้รับภายหลังการแจ้งความประสงค์
นายพรชัย กล่าวว่า เมื่อผู้มีบัตรสวัสดิการกรอกข้อมูลลงในแบบแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ แล้ว จะได้รับเอกสาร (หางตั๋ว) 1 แผ่นเล็กโดยขอให้เก็บเอกสารนี้ไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ
นายพรชัย กล่าวว่า หลังจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปียังไม่มาแจ้งความประสงค์จะมีทีมหมอประชารัฐ(ทีมเอโอ) เข้าไปเคาะประตูถึงบ้าน เพื่อถามความสมัครใจในการร่วมโครงการ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินเพิ่มเพื่อซื้อของร้านธงฟ้า 100 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ที่เคยได้รับ 200 บาท รวมเป็น 300 บาทต่อเดือน และเพิ่มอีก 200 บาทต่อเดือนสำหรับผู้เคยได้รับ 300 บาท รวมเป็น 500 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-ธันวาคม 2561 แต่ถ้าแจ้งความประสงค์ไว้แล้ว ไม่ยอมมาอบรม และไม่ยอมสร้างรายได้ หรือทำงานตามคำแนะนำของทีมเอโอ กระทรวงการคลังจะไม่เพิ่มเงินให้อีกในเดือนถัดไป รวมถึงเรียกเงินคืนในส่วนที่ให้ไปแล้ว ด้วยการหักเงินในส่วนบัตรที่จะได้รับในเดือนถัดไปจนกว่าจะครบวงเงิน
นายพรชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้แอบอ้างการให้สิทธิในการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในลักษณะของการโทรศัพท์ไปแจ้งว่า ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายนั้นเป็นผู้โชคดีที่จะได้รับการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และขอไปพบผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รายนั้นที่บ้าน กระทรวงการคลังขอแจ้งว่า กระทรวงการคลังไม่ได้มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ดังนั้น ขอให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ความระมัดระวัง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารทางการจากหน่วยงานของรัฐเท่านั้น