เมื่อวันที่ 29 ม.ค. รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวถึงปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงสีแดงว่า ในวันที่ 31 ม.ค.2561 จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง สามารถชมได้ด้วยตาเปล่าทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงเย็นเวลา 17.51 น.เป็นต้นไป แต่จะเห็นเต็มดวงเวลา 19.51-21.07 น. นานกว่า 1 ชั่วโมง 16 นาที ซึ่งต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก โดยการที่เห็นดวงจันทร์สีแดงเนื่องจากแสงสะท้อนดวงอาทิตย์กระทบดวงจันทร์

“วันดังกล่าวดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลา 17.51 น. จากนั้นค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลก เกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลา 18.48 น. และเข้าสู่จันทรุปราคาเต็มดวงตั้งแต่เวลา 19.51-21.07 น. โดยจะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง แต่หลังเวลา 21.07 น.ไปแล้วดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกกลายเป็นจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกหมดทั้งดวงเวลา 22.11 น. แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัวที่จะสังเกตเห็นได้ยาก สุดท้ายดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 23.08 น.”

รศ.บุญรักษา กล่าวอีกว่า นับเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกของปี 2561 โดยพื้นที่ที่สามารถเห็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ครั้งนี้ ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปเอเชีย บริเวณตอนเหนือและตะวันออกของทวีปยุโรป ตอนเหนือและตะวันออกของทวีปแอฟริกา ตอนเหนือและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ โดยในปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในไทยถึง 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของปี ส่วนปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.

“สดร.ได้ตั้งจุดสังเกตการณ์หลัก 4 จุดในจ.เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และสงขลา จึงขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมชมดวงจันทร์สีแดงอิฐแบบเต็มตาผ่านกล้องโทรทรรศน์ พร้อมเครือข่ายโรงเรียนอีกกว่า 260 แห่งทั่วประเทศ” รศ.บุญรักษากล่าว

ด้านนายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิตย์ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทย และที่ปรึกษาหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาฉะเชิงเทรา ได้จัดชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.ถึงเที่ยงคืน โดยตั้งกล้องโทรทรรศน์รวม 6 ตัว พร้อมถ่ายทอดการเกิดปรากฏการณ์ผ่านจอโปรเจ็กเตอร์ ในเดือนม.ค.ถือเป็นเดือนพิเศษที่ดวงจันทร์ใกล้โลก มีบลูมูนคือดวงจันทร์เต็มดวง 2 ครั้ง พร้อมเห็นพระจันทร์สีอิฐ หรือจันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำให้เกิดเงาของโลกบดบังดวงจันทร์เต็มดวงเห็นดวงจันทร์สีอิฐ

ขณะที่นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตส.ส.และส.ว.ฉะเชิงเทรา หรือฉายาโหร ส.ว. กล่าวว่า ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 31 ม.ค.ตามหลักดาราศาสตร์เป็นวันที่ดวงจันทร์เป็นซูเปอร์บลูมูน หรือดวงจันทร์สีเลือด ซึ่งมีอิทธิพลทางโหราศาสตร์ว่า จันทรุปราคาเมื่อเต็มดวงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกของเมืองพอสมควร ซึ่งจากปรากฏการณ์นี้ทำให้ดวงจันทร์ส่งกระแสมายังโลกไม่เต็มที่หรือเชิงลบ

“ดวงจันทร์เกี่ยวกับประชาชนและน้ำ โหราศาสตร์มองปัญหาในเรื่องความไม่พอใจจากประชาชนจากการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยประชาชนจะไม่พอใจรัฐบาลตัวเอง เห็นจากประเทศไทยมีปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจโตเพื่อนายทุน แต่ชนชั้นล่างไม่ได้รับผล ส่งผลให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเงามืดจันทรุปราคาเป็นความเศร้าหมอง ทำให้ประชาชนไม่พอใจต่อสถานการณ์การเมือง เป็นห่วงภัยธรรมชาติจากน้ำอุทกภัยจะเกิดขึ้น หรือสึนามิที่ใดที่หนึ่งรุนแรงแก่มวลมนุษย์ ดวงจันทร์เป็นตัวแทนของน้ำ ปัญหาน้ำท่วมและแล้งจะเป็นภัยธรรมชาติกระทบรัฐบาล” นายบุญเลิศ กล่าว

อ่านข่าว ปรากฏการณ์ ‘พระจันทร์สีเลือด’ จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกของปี’61 อย่าพลาด 31 ม.ค.