ททท.ยันปราบทัวร์ศูนย์เหรียญไม่กระทบเป้าจีดีพี 3.2% ปิ๊งใช้พาหนะท้องถิ่นจูงใจนักเที่ยว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความกังวลถึงการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้รายได้ลดหายไป จนกระทบต่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไทย (จีดีพี) ยอมรับว่า อาจกระทบต่อรายได้เข้าประเทศบ้าง แต่เป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น และแม้ว่าสัดส่วนรายได้จากภาคการท่องเที่ยว คิดเป็นสัดส่วน 16.6% ของจีดีพี แต่มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของจีดีพีในภาพรวมปี 2559 ที่ ธปท.ตั้งเป้าเติบโตไว้ 3.2% เพราะตลาดนักเที่ยวจากยุโรปเติบโตทุกประเทศ จะช่วยทดแทนรายได้ตลาดจีนที่หายไป

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ช่วงวันที่ 1-25 กันยายนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนลดลงประมาณ 9% ซึ่งเกิดในพื้นที่กรุงเทพฯและพัทยา แต่มั่นใจตั้งแต่วันชาติจีนต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไปถึงปลายปี จะยังเป็นช่วงเติบโตได้ดี วันที่ 14 ตุลาคมนี้ ผมพร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการท่องเที่ยว ไปร่วมประชุมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ซีเอ็นทีเอ) เพื่อหารือถึงแนวทางป้องกันและปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ สร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินการของไทย ในครั้งนี้นำบริษัทนำเที่ยวของไทยประมาณ 40 ราย ไปเจรจาซื้อขายแพคเกจทัวร์คุณภาพกับคู่ค้าประมาณ 100 ราย ที่กรุงปักกิ่ง มั่นใจว่าจะได้ผลตอบรับอย่างดี และทำให้ไตรมาส 4 ท่องเที่ยวไทยเติบโตต่อเนื่อง และตามเป้ารายได้ทั้งปี 2.58 ล้านล้านบาท

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ททท.ได้เปิด 8 เส้นทางท่องเที่ยว พร้อมชูจุดขายด้านการใช้พาหนะท้องถิ่น 4 แบบ ได้แก่ รถตุ๊กตุ๊ก เรือหัวโทง รถม้า และสกายแล็บ ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยยานพาหนะท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติแถบยุโรปที่ชื่นชอบสัมผัสการท่องเที่ยวแบบไทยๆ ได้เดินทางมาท่องเที่ยว และกระตุ้นยอดการใช้จ่ายสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ทั้งเจ้าของรถ และแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไปเยือน ได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งเป็นการตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองหรือเอฟไอที เช่น กลุ่มครอบครัว สุภาพสตรี และกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ โดยจะนำร่องพัฒนาเส้นทางใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯใช้รถตุ๊กตุ๊ก จังหวัดกระบี่ใช้เรือหัวโทง จังหวัดลำปางใช้รถม้าและ จังหวัดเลยใช้รถสกายแล็บ

นายชินาวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ บริษัท นวทรรศน์ ฮอสพิทัลลิตี้ จำกัด กล่าวว่า การนำยานพาหนะท้องถิ่น เช่น รถตุ๊กตุ๊ก รถแดงในจ.เชียงใหม่ มาเป็นพาหนะสำหรับใช้ในการเดินทางเส้นทางใหม่ๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการตุ๊กตุ๊กในเครือข่ายของบริษัทที่มีกว่า 35 คัน มีรายได้เพิ่มประมาณ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน และเตรียมขยายแผนจัดแพคเกจทัวร์รับประทานอาหาร (ฟู้ดทัวร์) ในตลาดอาเซียนมากขึ้น เบื้องต้นไปที่หลวงพระบาง ประเทศลาว เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา และจังหวัดภูเก็ต ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มเส้นทางกลางคืน โดยที่ผ่านมาธุรกิจฟู้ดทัวร์ที่ทำในกรุงเทพฯมียอดขายเติบโตถึง 70-80% และจะเน้นการโปรโมตการตลาดผ่านเส้นทางออนไลน์มากขึ้น

counter