เผยแพร่ |
---|
สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย สมาคมผู้ส่งออกฯ และผู้แทนเกษตรกร ยื่นหนังสือและรายชื่อเกษตรกร 30,000 ราย ร่วม “ค้าน” ยกเลิกการใช้ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ทางการเกษตร ย้ำ เกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วย เหตุ ส่งผลต้นทุนการผลิตเพิ่ม ผลผลิตลดลง รายได้ประเทศสูญหาย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยืนยันไม่ก่อปัญหาด้านสุขภาพ อีกทั้ง วอนตรวจสอบการทำงานกระทรวงสาธารณสุข ขาดการศึกษารอบด้านและควรทำงานร่วมกับนักวิชาการเกษตร ชี้ประเด็นข้อสงสัยการทำงานเอ็นจีโอกับนักวิจัยผิดปกติ ขีดเส้นตาย ขอคำตอบ มีนาคม นี้
สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนและมังคุด สมาคมส่งเสริมธุรกิจ พืชและอาหารสัตว์ และผู้แทนเกษตรกรกลุ่มพืชอ้อย ปาล์ม ยางพารา มะนาว ข้าวโพด ข้าวโพดหวาน มันสำปะหลัง ผักและผลไม้ เป็นผู้แทนกลุ่มเกษตรกรที่ไม่เห็นด้วย นำเสนอรายชื่อคัดค้านจำนวนกว่า 30,000 ราย มอบให้ พลเอก ประสาท สุขเกษตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยสรุปข้อคิดเห็นของเกษตรกร สมาคมเกษตรกร และนักวิชาการ รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจหากยกเลิกใช้สารดังกล่าวตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ยกเลิกใช้สารทั้ง 3 ชนิด และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการวัตถุอันตราย
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า ได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดส่งหนังสือทบทวนไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข และได้เข้าพบ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ซึ่งได้มอบหมายให้ พลเอก ประสาท สุขเกษตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยได้ข้อสรุปดังนี้ ขอรับเรื่องไว้และจะนำส่งไปให้หน่อยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ซึ่งข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขยกเลิกใช้นั้น ยังไม่มีการสรุป การดำเนินงานต่อไปจะให้ครอบคลุมเหมาะสมตามข้อเท็จจริง ในส่วนอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่คณะกรรมการวัตถุฯ ซึ่งจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้
“ทั้งนี้ สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ได้ยื่นเรื่อง ขอให้ “ยกเลิก” ข้อเสนอที่ให้ยกเลิกใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช พารา ควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ของเกษตรกร พร้อมชี้แจงผลกระทบต่อการนำเสนอผลวิจัยที่มีข้อมูลบิดเบือน ไม่ถูกต้องบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความเข้าใจผิดในสังคมวงกว้าง กระทบต่อราคาสินค้า การส่งออกผักและผลไม้ของเกษตรกรเป็นอย่างมาก “ นายสุกรรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร สมาคมเกษตรกร เกษตรกร และนักวิชาการ ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ พบว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ “ไม่เห็นด้วย” กับการยกเลิกการใช้สาร พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พาราควอต เนื่องจากส่งผลกระทบต่อ 1. ต้นทุนการผลิตของเกษตรกร 2. ผลผลิตการเกษตรลดลง 3. การสูญเสียรายได้ระดับประเทศ อันเนื่องมาจากผลผลิตที่ลดลง คิดเป็นมูลค่าการสูญเสียสูงถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี สำหรับกลุ่มอ้อยและมันสำปะหลัง
“ขณะเดียวกัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลยืนยันว่า การใช้สารกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด ไม่พบว่ามีหลักฐานผลกระทบทางสุขภาพตามที่กล่าวอ้าง สอดคล้องกับประสบการณ์ตรงของเกษตรกรที่ใช้สารดังกล่าว มานานกว่า 50 ปี ไร้ผลกระทบต่อสุขภาพ