ส่งออกไทยเฮ! ส.ค.ตีกลับเป็นบวกครั้งแรกรอบ 5 เดือน ขยายสูงสุด6.5%

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว และมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่การส่งออกของไทยที่ผ่านมา ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศ โดยเดือนสิงหาคม 2559 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 18,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งในรอบ 5 เดือน และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน การส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% และหักทองค้า การส่งออกจะขยายตัวเป็น 9% โดยหากหักทั้งสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ จะขยายตัวสูงถึง 11.3%

สำหรับการนำเข้าเดือนสิงหาคม 2559 มีมูลค่า 16,697 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2558 และได้ดุลการค้า 2,128 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ทำให้รวม 8 เดือนแรกปี 2559 ไทยส่งออกมีมูลค่ารวม 141,007 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 1.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวม 125,624 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 8.8 % และได้ดุลการค้ารวม 15,384 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า หากคิดสกุลเงินบาท การส่งออกเดือนสิงหาคม มีมูลค่า 654,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% เทียบเดือนสิงหาคมปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 587,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% และได้ดุลการค้า 66,716 ล้านบาท โดยเมื่อรวม 8 เดือนแรกปีนี้ การส่งออกมีมูลค่า 4,967,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 4,476,992 ล้านบาท ติดลบ 2.2% และการค้าเกินดุล 490,850 ล้านบาท

นายสุวิทย์ กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ส่งออกกลับเป็นบวกอีกครั้ง เนื่องจากสินค้าอุตสาหกรรมเติบโต 8 % โดยเฉพาะการส่งออกอุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด ไปตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง และญี่ปุ่น เติบโตถึง 102.6% การส่งออกเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไปตลาดออสเตรเลีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เติบโตได้ 44.5% การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ ไปตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เติบโต 40.4% การส่งออกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ไปตลาดออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น เติบโต 25% และการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง ไปตลาดสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น เติบโต 11%