นักวิชาการจี้รัฐบรรจุม้าน้ำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามซื้อขาย หลังพบนำมาย่างเสียบไม้ขาย

กรณีร้านขายอาหารทะเล ที่ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา จ.ชลบุรี พบว่ามีการนำม้าน้ำมาย่างเสียบไม้ขาย ในราคาไม้ละ 150 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและถ่ายรูปลงทางโซเชียล ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สถานภาพของม้าน้ำกำลังคุกคาม เนื่องจากสูญเสียแหล่งอาศัยบริเวณแนวหญ้าทะเล แนวปะการัง และป่าชายเลน รวมทั้งความเชื่อผิดๆ ที่ใช้ม้าน้ำเป็นยารักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหืด เส้นโลหิตตีบ กระดูกแตกหัก และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ รวมทั้งนำมาเป็นเครื่องประดับ ทำให้การซื้อขายม้าน้ำเป็นไปอย่างแพร่หลาย โดยไทยได้ทำข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยจัดม้าน้ำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ในบัญชีที่ 2 โดยห้ามนำเข้าหรือส่งออก เว้นแต่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซื้อขายได้ แต่ต้องควบคุมหรือจำกัดปริมาณเพื่อไม่ให้เสี่ยงสูญพันธุ์ ในขณะที่กฎหมายในประเทศไทยยังไม่มีข้อห้ามใดๆ จึงเป็นช่องว่างที่สามารถซื้อขายได้ดังกล่าว

นายธัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการบรรจุม้าน้ำให้เป็นสัตว์คุ้มครองเพื่อปิดช่องโหว่ในการซื้อขายม้าน้ำในประเทศนั้น ต้องให้ทางกรมประมงเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องม้าน้ำโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งกรมประมง กรมอุทยานฯ ได้ร่วมมือที่จะฟื้นฟูประชากรม้าน้ำให้มากขึ้น โดยให้กรมประมงเป็นผู้เพาะพันธุ์ม้าน้ำ และทางกรมอุทยานฯ ได้เอื้ออำนวยสถานที่จัดให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เป็นศูนย์ปฏิบัติการ ทั้งนี้ในส่วนของการซื้อขายม้าน้ำ หรือสัตว์ทะเลหายากที่แอบลักลอบขายตามร้านอาหาร โดยเฉพาะในย่านที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจตราเข้มงวดเป็นพิเศษ

ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ความจริงการบรรจุม้าน้ำเป็นสัตว์คุ้มครองนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ร่วมศึกษาข้อมูลค่อนข้างครบถ้วนแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้เรื่องยังเงียบอยู่ เท่าที่ตนทราบคือยังไม่ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การบรรจุม้าน้ำเป็นสัตว์คุ้มครองไม่ใช่เรื่องที่เริ่มนับหนึ่งใหม่ เรื่องดำเนินมาแล้ว หากหน่วยงานได้กระตุ้นเรื่องนี้จริงๆ คาดว่า 6 เดือนน่าจะเป็นผล

“การนำม้าน้ำมาปิ้งย่างขายตามร้านอาหาร นับเป็นภัยคุกคามแบบใหม่ เพราะที่ผ่านมาประมงไทยเมื่อจับม้าน้ำมาได้ ก็ปล่อยลงทะเล เนื่องจากไม่ได้มีความต้องการทางตลาดมากนัก แต่ในขณะนี้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนต่อปี ซึ่งในประเทศจีนก็มีม้าน้ำวางขายอยู่ทั่วไป และเมื่อชาวจีนมาไทยจึงเป็นไปได้หากจะจับม้าน้ำมาย่างขาย เพราะมีคนซื้อแน่ๆ” ดร.ธรณ์ กล่าว

ดร.ธรณ์ กล่าวต่อว่า ในเมื่อภัยคุกคามใหม่กำลังแพร่ระบาด ภาครัฐจึงควรกระตุ้นเรื่องนี้ให้สำเร็จบรรจุม้าน้ำเป็นสัตว์คุ้มครองให้ได้โดยเร็ว และในส่วนของร้านขายยาที่มีม้าน้ำตากแห้งขายเป็นยานั้น ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถใช้ระบบการตรวจสอบเช่นเดียวกับงาช้างได้ โดยให้ร้านขายยามาแจ้งการครอบครอง เป็นต้น สำหรับการฟื้นฟูม้าน้ำ เช่น การเพาะพันธุ์ เพราะการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ก็อาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับร้านอาหารดังกล่าวที่นำม้าน้ำมาย่างขาย ทางตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา ได้สั่งการให้หยุดขายในทันที และยกเลิกสัญญาการค้ากับผู้ประกอบการรายนี้ในทันทีด้วยเช่นกัน

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์