แล้งมาเร็ว ! บุรีรัมย์จ่อวิกฤตน้ำมูนแห้งเร็วในรอบ 20 ปี สันดอนทรายโผล่ คนเดินข้ามไปมาได้

วันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในลำน้ำมูนที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปีแม้จะยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้ง โดยเฉพาะบริเวณบ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง อ.สตึก ที่ชาวบ้านต้องอาศัยน้ำมูลในการผลิตประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลดต่ำลงอย่างน่าตกใจจนมองเห็นสันดอนทรายโผล่กลางลำน้ำ คนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้แล้ว จากทุกปีระดับน้ำจะลดลงช่วงเดือนมีนาคม กรณีดังกล่าวผู้นำชุมชนจึงออกประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือชาวบ้านในหมู่บ้านให้งดทำนาปรัง และช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะเกรงว่าน้ำที่เหลือจะไม่เพียงพอผลิตประปาให้ประชาชนได้อุปโภคบริโภคได้ตลอดหน้าแล้งนี้ ขณะที่ทางกรมเจ้าท่าได้นำเครื่องจักรพร้อมเรือดูดทราย เร่งทำการขุดลอกแม่น้ำมูลบริเวณบ้านท่าม่วง เพื่อให้ลำน้ำมีความลึกและกว้างสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีน้ำดิบสูบขึ้นไปผลิตประปาได้ในช่วงหน้าแล้งนี้

นายสมควร ใจกล้า ผู้ใหญ่บ้าน บ.ท่าม่วง ม.1 ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า แม้ช่วงนี้จะยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้ง แต่ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลก็ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งปีนี้ถือว่าลดเร็วที่สุดในรอบ 20 ปีจนขณะนี้มองเห็นสันดอนทรายโผล่กลางลำน้ำเป็นบางช่วงแล้ว จึงประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือลูกบ้าน ให้งดทำนาปรังจากเดิมเกษตรกรจะใช้เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สูบดึงน้ำจากลำน้ำมูลขึ้นไปเพาะปลูกข้าว พร้อมทั้งขอความร่วมมือช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย เพราะเกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปาบริการประชาชนได้ตลอดหน้าแล้งนี้ อย่างไรก็ตามจึงอยากร้องขอให้ทางภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาสำรวจและดำเนินการสร้างฝายหรือเขื่อนยาง เพื่อกักเก็บน้ำมูลไว้ใช้ผลิตประปา ทำการเกษตร และเลี้ยงสัตว์ได้ตลอดทั้งปีลดปัญหาแล้งซ้ำซากด้วย