ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ภายหลังนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เข้าพบ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(สำนักงานป.ป.ส.)และผู้บริหารระดับสูง เมื่อวันที่ 12 ม.ค.61 ซึ่งในการเข้าพบมีการพูดคุยกันที่เป็นประโยชน์และทราบว่าทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 ให้รัฐมนตรีสามารถอนุญาตให้มีการเพาะปลูกพืชกัญชาเพื่อสกัดเป็นยารักษาโรคในพื้นที่ที่รัฐมนตรีกำหนด โดยมีความเห็นร่วมกันว่าพื้นที่กำหนดพื้นที่แรกคือ จ.สกลนคร เพราะเป็นต้นน้ำสงคราม เทือกเขาภูพานเป็นแหล่งกำเนิดพันธุ์พืชกัญชาที่ดีที่สุด
วันที่ 16 ม.ค.61 นายบุญฮง ยอดหอ ประธานสภาเกษตรกร จ.สกลนคร กล่าวว่าเบื้องต้นก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับคณะแพทย์และทีมวิจัยไปแล้วบางส่วน ตอนนี้ทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยการรับแนวทางปฎิบัติภายในเดือนหน้าจะมีการประชุม เพื่อคัดสรรเกษตรกรที่มีคุณภาพร่วมทำโครงการ โดยยึดหลักปฎิบัติที่ดี มีจริยธรรมสูง เพราะเป็นพืชควบคุมและไม่นำไปใช้ผิดประเภท สำหรับพื้นที่นำร่อง 5,000 ไร่ ที่จะนำไปปลูกในเขตทหาร บนเทือกเขาภูพานจังหวัดสกลนคร เพื่อการควบคุมและเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่นำไปใช้ในทางที่มีผลกระทบต่อประเทศ ถามว่าเกษตรกรที่มานั้นมีฝีมือไหม ยอมรับว่ามีฝีมือ หลายท่านเคยปลูกกันมานานตั้งแต่อดีต เพราะพื้นที่บนเทือกเขาภูพานสภาพอากาศเย็นชื้นเหมาะแก่การเจริญเติบโต แม้กัญชาจะเป็นพืชเมืองร้อน แต่จะชอบอากาศเย็น ดังจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาจังหวัดสกลนครมีการเผาตัดทำลายอย่างต่อเนื่องจนคนกระทำผิดหยุดไป คราวนี้ดึงกลับมาใหม่ให้อยู่ภายใต้กฎหมายปลูกในพื้นที่ปิด เชื่อว่าอนาคตจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร ประเทศชาติและผู้ป่วยในหลายโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย ทุกคนจะได้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในราคาถูกและรัฐไม่ต้องนำเข้ายารักษาโรคราคาแพง