รมว.กระทรวงวิทย์ฯ ดันเชียงรายสู่เมืองสมุนไพรครบวงจร

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จ.เชียงราย นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการสถาปนา มฟล.เรื่องมหา วิทยาลัยกับประเทศไทย 4.0 ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่มีนวัตกรรม ทั้งทางสังคมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และต้องแปลงออกมาให้เป็นประโยชน์ วันนี้มหาวิทยาลัยช้าเกินไป มหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยทรัพยากร ทั้งอาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา แต่ช้า มีความเฉื่อยมากเกินไป ต้องกระฉับกระเฉง และคล่องตัวมากกว่านี้ ขณะนี้มีงบประมาณในการลงทุนวิจัย กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก คาดว่าปี 2560 อย่างน้อยจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 0.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และอีก 5 ปีข้างหน้า เชื่อว่าจะอยู่ที่ 2% ของจีดีพี ทำให้ประเทศไทยจะก้าวเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้น มหาวิทยาลัยและนิสิตนักศึกษาจะต้องช่วยกันสร้างองค์ความรู้ และต้องใช้ปัญญาเป็นหลักในการพัฒนาทรัพยากรที่มีจำกัด และแก้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย

“มหาวิทยาลัย 4.0 ต้องปรับรูปแบบตัวเองใหม่ มีขนาดเล็กลง เปิดสอนในสาขาที่เชี่ยวชาญและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ใช่เปิดสอนหลากหลายสาขาอย่างทุกวันนี้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้ามีหลายห้องเรียน หลายสาขาที่จะไม่มีคนเรียนและต้องปิดตัวลง ทางหนึ่งที่จะรอดจากสภาพแบบนี้คือ มหาวิทยาลัยต้องดึงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา เปิดสอนในสาขาที่ตัวเองเชี่ยวชาญ และเป็นความต้องการของประเทศ” นายพิเชฐกล่าว

นายวันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มฟล. กล่าวว่า 18 ปีที่ผ่านมา มฟล.ได้จัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในสาขาต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เทคโนโลยีอาหาร การขนส่งและโลจิสติกส์ ด้านไอซีทีและเทคโนโลยี ด้านเวชสำอางค์ สมุนไพร และด้านการแพทย์ ซึ่งสาขาเหล่านี้ ล้วนสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยปีนี้ มฟล.ตั้งเป้านำจังหวัดเชียงรายก้าวสู่การเป็นเมืองสมุนไพรครบวงจร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม พัฒนาสมุนไพรไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ

ที่มา มติชน