ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ก.ย. 59 นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อายุ 54 ปี ผู้กำกับและพิธีกรชื่อดัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. นิยมรุ่ง มุมเมือง พนักงานสอบสวนสภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งความดำเนินคดีกับ 2 ผู้ต้องหาที่แอบอ้างเป็นคนสนิทและปลอมแปลงเพจเฟซบุ๊กเพื่อหลอกให้ผู้ใจบุญโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ซึ่งนอกจากจะทำให้ตนเองเสียงชื่อเสียงแล้วยังเป็นการหลอกลวงประชาชนผู้ใจบุญ รวมถึงซ้ำเติมครอบครัวที่ล้มป่วยกำลังรอความช่วยเหลืออีกด้วย
บิณฑ์ บรรลือฤทธ์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคน ส่งข้อมูลภาพถ่ายจากเฟซบุ๊กมาให้ตรวจสอบ โดยเมื่อ ตรวจสอบพบว่า เป็นภาพถ่ายจากหน้าเพจโดยมีรายละเอียดเนื้อหาที่ ตนเองเคยลงข้อมูลไว้ แต่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในส่วนของชื่อเจ้าของ บัญชีธนาคารและหมายเลขบัญชีธนาคาร คือ จะเปลี่ยนชื่อเจ้าของบัญชี ของผู้ได้รับความเดือดร้อน เป็นชื่อ“ภูมิน คงทน”, “โพมิน อรัญสอน”, “ภูมินทร์ พฤกษ์พาณิชย์”, “ภูมิพันธ์”, “ภูมิน พิสุวรรณ”, “ชนกขันธงไชย” ซึ่งชื่อเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด แต่จะใช้หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 868-0593-087 และชื่อ “สุวนันท์ ชนะจันทร์” หมายเลขบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 016-1596-078 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ทำปลอมขึ้น
การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ตนได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นยังพบว่า มีครอบครัวของน้องไม้ ซึ่งเป็นเด็กที่ป่วยเป็นโรคพิการทางสมองตั้งแต่เกิด ได้มี นางสาวจันทิมา ผู้ต้องหาโทรศัพท์เข้ามาหา โดยอ้างว่าตามที่มีการมาลงข้อมูลไว้เพื่อให้ตนเข้าไปช่วยเหลือนั้น นางสาวจันทิมา อ้างเป็นทีมงานและเป็นคนสนิทกับตน และจะเข้าไปช่วยเหลือได้ แต่จะต้องมีการโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จำนวน 6,000 บาท โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาละงู จังหวัดสตูล ชื่อบัญชี นางสาวจันทิมา เลขที่บัญชี 980-8693210 นอกจากนี้ ยังจำได้ว่า ก่อนเกิดเหตุนี้ เมื่อประมาณต้นปีพ.ศ. 2558 เคยได้รับ แจ้งจาก นางสาว จันทิมา เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากตนมาโดยตลอด โดยอ้างเหตุต่างๆ มาเรื่อยๆ จนกระทั่งจับได้ว่านางสาวจันทิมาได้หลอกลวง เพื่อจะให้ช่วยเหลือด้านการเงินจึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ คนร้ายซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด จำนวนเท่าใด
ทั้งนี้ตนเองขอย้ำเตือนถึงผู้ใจบุญที่จะร่วมกันบริจาคทำบุญให้ผู้ป่วยทุกรายขอให้ตรวจสอบรายละเอียดก่อนโอนเงินทำบุญทุกครั้งหากพบเห็นการแชร์ผ่านทางเฟซบุ๊กนั้นขอให้ตรวจสอบยอดการกดไลค์และการแชร์ซึ่งหากเป็นเพจตนเองจริงจะพบว่ามีการกดไลค์และกดแชร์จำนวนมากแต่หากเป็นของเพจปลอมที่ทำขึ้นมายอดการกดไลค์กดแชร์จะไม่มากเหมือนเพจของตนเองซึ่งหากผู้ใจบุญหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้นอกจากจะเสียเงินฟรีแล้วผู้ที่กำลังรอความช่วยเหลือก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกด้วย
ด้าน ร.ต.อ. นิยมรุ่ง ระบุว่าหลังจากสอบสวนคำให้การแล้วพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดจริง เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาเคสนี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ในส่วนของ ผู้ต้องหาที่แอบอ้างปลอมเพจและเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีนั้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นการใช้เลขบัญชีเดียวแต่เปลี่ยนชื่อหลายครั้งและก่อเหตุมาแล้วหลายปีซึ่งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงเจ้าของบัญชีก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุกราย ในข้อห้า ฉ้อโกง ส่วนผู้ต้องหาที่ชื่อ นางสาวจันทิมา นั้นขณะนี้รู้ตัวแล้วและจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อหาต่อไป
ที่มา ข่าวสด