เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ร.ต.อ. กฤษณะ มั่นศักดิ์ รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุผู้ขับขี่รถยนต์ทะเลาะวิวาทกันริมถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนราชปรารภ ฝั่งซ้ายมุ่งหน้าแยกประตูน้ำ พบรถหรูปอร์เช่ รุ่นคาร์เรร่า 2 สีดำ ทะเบียน 4 กผ 4134 กทม. จอดอยู่ริมถนนฝั่งซ้าย ในสภาพกระจกฝั่งขวาด้านคนขับแตกทั้งบาน ใกล้รถกันพบนายมาริโอ้ เมาเร่อ อายุ 29 ปี พระเอกชื่อดัง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ ขณะเดียวกันพบรถคู่กรณีเป็นรถแท็กซี่โตโยต้า สีเหลือง ทะเบียน ทส 3889 กทม. สภาพกระจกหน้าซ้ายแตก โดยมีนายอุดร สุทธิสน อายุ 37 ปี ชาวต.เด่นราษฎร์ อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด คู่กรณีเป็นผู้ขับรถ

จากการสอบปากคำนายอุดร โชเฟอร์รถแท็กซี่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากถนนพระราม 6 เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อมาถึงแยกอุรุพงษ์ถูกรถปอร์เช่ของดาราหนุ่มขับปาดหน้า ตนจึงเปิดกระจกด่า ก่อนที่จะมีการด่ากันไปมา จากนั้นได้ขับรถปาดกันไปมาจนมาติดไฟแดงบริเวณแยกประตูน้ำ จังหวะนั้นตนได้ใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินจากภายในรถทะลุช่องกระจกรถของตัวเองฝั่งซ้าย ไปโดนกระจกฝั่งขวาด้านคนขับรถของดาราหนุ่มจนแตก จากนั้นนายมาริโอ้จึงขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชปรารภก่อนจะจอดรถ ก่อนมีตำรวจที่อยู่ภายในป้อมบริเวณแยกประตูน้ำมาตรวจสอบ จากนั้นจึงได้เชิญตัวทั้งคู่มาสอบปากคำที่สน.พญาไท

ด้านนายมาริโอ้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆเพียงว่าไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต

ต่อมา พ.ต.อ. นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายกระจกรถของมาริโอ้ นอกจากนี้ในวันที่ 9 ม.ค. ทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือส่งไปที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาพักใบอนุญาตขับขี่ของนายอุดร ซึ่งต้องรอกรมขนส่งทางบกเป็นผู้พิจารณาว่าจะพักการใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าโชเฟอร์รายดังกล่าวจะไปก่อเหตุกับผู้ขับขี่รถรายอื่นบนท้องถนนอีกหากเกิดเหตุการณ์อย่างในวันนี้

ต่อมาเมื่อ 21.00 น. มาริโอ้ ดาราหนุ่ม ได้เดินออกจากห้องสืบสวน แล้วรีบเดินขึ้นรถยนต์กลับทันที โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ พระเอกดังหันมาตอบสั้นๆว่า “เดี๋ยวเล่าให้ฟังภายหลัง”

จากนั้นถามอีกว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ พระเอกดัง หันมาชูนิ้วโป้งแล้วยิ้ม พร้อมตอบว่า “ไม่ครับ ได้อยู่ครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างพระเอกดังและโชเฟอร์แท็กซี่ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาตกลงกันได้ โดยพระเอกหนุ่มไม่เอาเรื่องแท็กซี่ที่ยิงหนังสติ๊กใส่ ก่อนมาริโอ้จะจับมือกับโชเฟอร์แท็กซี่ แต่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีหนุ่มแท็กซี่ตามกฎหมาย ฐานทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ