บูมสนั่นอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวทัวร์จีน

ส่งออกอาหารสำเร็จรูปปี”61 โต 3-5% ห่วงอัตราแลกเปลี่ยนกระทบการแข่งขัน พร้อมเร่งรัฐเจรจาการค้าเสริมโอกาสส่งออก แนะผู้ผลิตจับเทรนด์ทำตลาดอาหารปี”61 มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวดันสินค้าและสร้างแบรนด์ไทยโตในต่างประเทศ

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวกับ “ประชาติธุรกิจ” ว่า การส่งออกในปี 2561 คาดการณ์จะขยายตัว 3-5% จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกดีขึ้น มีผลต่อคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามามากขึ้น แต่ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าห่วงที่สุด อาจจะมีผลต่อต้นทุนและราคา และขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ปัจจัยเรื่องวัตถุดิบในการผลิตอาหารทั้งในกลุ่มผัก ผลไม้ ในปี 2561 ไม่น่าเป็นห่วง มองว่าวัตถุดิบเพียงพอ ราคายังทำให้แข่งขันได้

ทั้งนี้ สถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้นเป็นจังหวะที่ดีที่ภาครัฐควรที่จะเดินหน้าเจรจาการค้ากับต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสในการทำตลาดส่งออกในปี 2561 เป็นจังหวะที่ดีที่ประเทศไทยจะสร้างสานสัมพันธ์ทางการค้ากับต่างประเทศ เนื่องจากต่างประเทศเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ประเทศไทยน่าจะเข้าไปเจรจาการค้าเพื่อเป็นการผลักดันการส่งออกไทยในปีหน้าด้วย

นอกจากนี้ เรื่องมาตรฐานการนำเข้า ส่งออกเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม แต่ไม่ได้มีความน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะสินค้าไทยยังได้มาตรฐานการส่งออกและความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคอยู่แล้ว หากมีการเจรจาการค้าเข้ามาช่วยก็เชื่อว่าจะช่วยลดอุปสรรคเรื่องนี้

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจในการทำตลาดอาหารสำเร็จรูปในปี 2561 เทรนด์อาหารสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกน่าจะคำนึงถึงให้มากขึ้น เพราะการท่องเที่ยวภายในประเทศมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี และนักท่องเที่ยวมีหลากหลายมากขึ้น และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่น่าจับตา คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และกลุ่มที่มาเที่ยวเอง ซึ่งมีการใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะทำให้สินค้าอาหารสำเร็จรูปของไทยมีการเติบโตและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคได้มากขึ้น

“ตอนนี้ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ามีมากมาย เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต แฟมิลี่มาร์ท เซเว่นฯ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โลตัส รวมไปถึงห้างใหญ่ ๆ เริ่มจัดโซนสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวได้หยิบจับเลือกซื้อได้ง่าย ทั้งในรูปแบบพร้อมทานและสามารถแพ็กใส่กระเป๋านำไปเป็นของฝากได้ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายเล็ก ๆ จะสามารถทำตลาดได้ และเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับสินค้าตนเองได้ ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ”

นายวิศิษฐ์กล่าวว่า เทรนด์อาหารสำหรับนักท่องเที่ยวในปี 2561 เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมในการนำเสนอสินค้าและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เนื่องจากเป็นการทำตลาดที่ง่ายและต้นทุนต่ำ พร้อมกันนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้า และต่อยอดให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศจากการนำสินค้าที่ซื้อไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับบ้าน และสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวคือสินค้านั้นต้องพร้อมทาน สะดวก และสามารถบรรจุลงกระเป๋าได้ด้วย ซึ่งการปรับรูปแบบแพ็กเกจ หรือบรรจุภัณฑ์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีด้วย

สำหรับสินค้าที่นักท่องเที่ยวจะสนใจ เช่น ผัก ผลไม้ ยังเป็นสินค้าอันดับหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการบริโภค เป็นการเพิ่มมูลค่า และต้องเพิ่มคุณค่าทางด้านอาหาร เช่น การอบแห้งที่ยังคงคุณค่าของสารอาหาร การลดความหวาน มัน เค็ม แต่รสชาติอาหารยังคงความอร่อย จะทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องนี้พอสมควรในด้านสุขภาพ ขณะที่เครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว เป็นสินค้าหนึ่งที่เป็นที่ต้องการ แต่ผู้ประกอบการอาจจะต้องปรับรสชาติให้บ่งบอกถึงความเป็นไทย เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับผู้ซื้อ

นอกจากนี้ ช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าต่าง ๆ การสร้างการรับรู้สินค้าไทยผ่านมัคคุเทศก์ หรือไกด์ ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวรับรู้สินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และสิ่งที่ผู้ผลิตต้องให้ความสนใจเพิ่มเติมคือเรื่องของมาตรฐานต่าง ๆ ที่ยอมรับในระดับสากล หรือภายในประเทศต้องผลิตสินค้าให้ได้การรับรองตามมาตรฐาน เพราะจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจในการซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น และภาษาเป็นสิ่งสำคัญควรมีประกอบด้วย และสินค้าที่มาจากธรรมชาติ ปราศจากสิ่งเจือปน จะยิ่งทำให้สินค้านั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว และโอกาสขยายตลาดไปในต่างประเทศจะง่ายขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์