จีนซ่อมกำแพงเมืองจีน “ลวกๆ” เทปูนทับ หมดความสวยงาม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โลกโซเชียลของจีนกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการซ่อมกำแพงเมืองจีนที่มีอายุเก่าแก่ถึง 700 ปี ของทางการจีน ที่ทำอย่างลวกๆด้วยการเทปูนทับลงไป ทำให้พื้นของกำแพงกลายเป็นพื้นเรียบ ไม่หลงเหลือความเก่าแก่ของกำแพงเอาไว้

ข่าวระบุว่า บริเวณกำแพงเมืองจีนที่กลายเป็นปัญหานี้ เป็นบริเวณที่เรียกว่า “เสี่ยวเหอโข่ว” ที่มีความยาว 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขายานซัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลเหลียวหนิง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1381 ในช่วงราชวงศ์หมิง และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นส่วนที่สวยที่สุดส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีน

This picture taken on September 21, 2016 shows a villager walking on a paved-over section of the Great Wall of China at Suizhong, in China's northeast Liaoning province. Chinese social media users were in an uproar on September 23 over restoration of a 700-year-old section of the Great Wall that has been covered in concrete, turning it into a smooth, flat-topped path. Known as one of the most beautiful portions of the "wild", unrestored wall, the eight-kilometre (five-mile) Xiaohekou stretch in northeast Liaoning province was built in 1381 during the Ming Dynasty. / AFP PHOTO / STR / China OUT
แต่หลังจากได้รับการซ่อมแซม และมีการเผยแพร่ภาพออกไป ก็ถูกโลกโซเชียลวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากมีการเทปูนทับไปบนพื้นทำให้พื้นที่เคยขรุขระตามธรรมชาติ กลายเป็นพื้นปูนเรียบสีขาวไปทั้งทาง ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายความสวยงามของกำแพงเมืองจีนที่มีอยู่เดิมไปหมดสิ้น และเป็นสิ่งที่น่าเกลียดอย่างยิ่ง โดยมีการส่งต่อภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังการซ่อมแซมออกไปอย่างกว้างขวาง

ข่าวระบุว่า เมื่อปี 2012 ได้มีการประชุมฉุกเฉิน ว่าด้วยกำแพงเมืองจีน “เสี่ยวเหอโข่ว” เพื่อหาวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้กำแพงส่วนนี้ได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ เนื่องจากกำแพงเมืองจีนบริเวณดังกล่าวเริ่มมีปัญหาด้านโครงสร้างหนักมากขึ้น จึงเริ่มมีการสำรวจและอนุมัติการซ่อมแซมเพื่อบูรณะกำแพงเมืองจีนที่ถือเป็นสมบัติสำคัญของประเทศจีน

%e0%b8%8b%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%994-768x511

ทั้งนี้ องค์การยูเนสโก ส่วนมรดกโลก เปิดเผยเมื่อปีที่ผ่านมาว่า กำแพงเมืองจีนได้หายไปตามกาลเวลาราว 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ และจากฝีมือของมนุษย์ ขณะที่โกลบอลโทม์สรายงานว่า ตามกฎหมาของจีน ใครก็ตามที่นำอิฐจากกำแพงเมืองจีนไป จะต้องถูกปรับเงิน 5,000 หยวน แต่กำแพงเมืองจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ก็ยังคงถูกทำลายอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา มติชน