ตัวละแสน! “ปู่ศล”คนเลี้ยงตุ๊กแก 6 สายพันธุ์ไทยกว่า100ตัว เผยไม่ขาย-เก็บไว้ทดสอบทำยา

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายโกศล จำเริญบุญ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ปู่ศล” อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.11 บ.นาโพธิ์ ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ที่เลี้ยงตุ๊กแกไว้จำนวนมาก มานานกว่า 5 ปี เพื่อจะนำมาทำเป็นยา เพื่อพิสูจน์ว่าได้ผลจริงหรือไม่ ตามที่มีการกล่าวอ้างกันมา

โดยนายโกศลได้พาไปดูกรงแต่ละกรง พบว่ามีตุ๊กแกอยู่หลากหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ที่มีความยาวถึง 16 และ 17 นิ้ว ซึ่งนอกจากในกรงแล้วยังแยกเลี้ยงในกระบอกไม้ไผ่ด้วย ซึ่งแต่ละกรงจะมีขันน้ำและรังจิ้งหรีดไว้สำหรับให้ตุ๊กแกกิน การเลี้ยงจะเลี้ยงแบบธรรมชาติ 3-4 วันจะมาดูแลครั้ง หากตัวไหนกัดกันก็จะแยกนำไปไว้กรงอื่น

สำหรับกรงที่ใช้เลี้ยงนั้น นายโกศลเป็นผู้ออกแบบขึ้นมาเองทั้งหมด ซึ่งตุ๊กแกที่เลี้ยงไว้เคยมีคนมาติดต่อให้ราคาสูงถึงตัวละแสนบาท แต่ต้องมีการเจาะตรวจเซลล์ ยุ่งยากเลยไม่ขาย เนื่องจากจะเก็บไว้และนำมาทดสอบปรุงยา เพื่อพิสูจน์ว่าได้ผลจริงตามที่เขาเล่าลือและหาซื้อไปขายหรือไม่ ที่สำคัญอดสงสารไม่ได้เลยไม่ขาย ซึ่งขณะนี้ต่างประเทศมีความต้องการจำนวนมาก

โดยตุ๊กแกที่นายโกศลนำมาเลี้ยงเป็นตุ๊กแกพันธุ์ไทยล้วน มีทั้งหมด 6 สายพันธุ์ เลี้ยงเองขยายพันธุ์เอง ขณะนี้มีจำนวนร้อยกว่าตัวแล้ว นอกจากการเลี้ยงตุ๊กแกแล้วยังพบว่านายโกศล ยังเป็นเกษตรกรที่ทำเกษตรผสมผสานตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่นาของตนเองอีกด้วย

“เห็นเขาลือว่าเป็นยาก็เลยอยากจะทดสอบดูว่า เมื่อตุ๊กแกอายุ 5 ปี ขึ้นไปมันจะมียาจริงไหม ก็อยากจะเอาทำกินเอง กฎหมายบ้านเราเขาก็ไม่ได้สงวน เป็นสัตว์ที่มีอยู่ทุกหลังคาเรือน ตนเลี้ยงมา 5 ปีแล้ว เริ่มเลี้ยงตอนที่ไปบำเพ็ญอยู่บนภูเขา ตอนนั้นมีอยู่ 10 ตัว แต่เริ่มทำกรงเลี้ยงแบบนี้มา 3 ปี” ปู่ศล กล่าว

นายโกศล กล่าวว่า ปัจจุบันมีตุ๊กแกขนาดใหญ่อยู่ 80 กว่าตัว ถ้านับรวมตัวขนาดเล็กที่เพาะพันธุ์ขึ้นมาอีกก็ 100 กว่าตัว ตัวใหญ่สุดอยู่ที่ 4 ขีด ส่วนตัวที่ยาวสุดจะอยู่ที่ 16 นิ้ว ที่เลี้ยงอยู่ตอนนี้มี 6 สายพันธุ์ เป็นตุ๊กแกพันธุ์ไทยทั้งหมด จะไม่ไปเอาของประเทศอื่นมา ส่วนวิธีการเลี้ยงก็ให้จิ้งหรีดเป็นอาหาร เราไม่ต้องไปเสริมเรื่องโปรตีนอย่างอื่น เพราะเราไม่ต้องการทำเป็นการค้า เราต้องการเซลล์ที่แท้จริงจากตัวตุ๊กแก

นายโกศล กล่าวต่อว่า เคยมีคนมาถามชื้อ แต่ว่าต้องเอาหมอมาตรวจ มีขั้นตอนยุ่งยากก็เลยบอกไปว่าไม่ขายหรอก เพราะตนก็ต้องการอยากจะทดสอบเหมือนกัน เคยลองกินดูแล้วโดยการนำส่วนหาง เมื่อตุ๊กแกตัวโต 3 ขีดขึ้นไป ส่วนหางจะมีน้ำมัน ก็นำเอาน้ำมันไปผสมบดกับโสมแดงโสมขาวกิน แต่ตนจะเอาเฉพาะตัวที่ใกล้จะหมดอายุขัยแล้วมาทำยา โดยการนำไปย่างนำไปตากแดด ดูว่าวิธีไหนที่จะได้น้ำมันจากตุ๊กแกเยอะมากที่สุด และไม่ทำให้เชื้อที่จะนำมาทำยาตาย

นายโกศล กล่าวอีกว่า ตนลองกินดูแล้วก็รู้สึกว่ามีกำลัง เวลาไปทำงานก็จะแตกต่างกันคือไม่เหนื่อยง่าย อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าการผสมออกมาเป็นตัวยานั้น สัดส่วนความสมดุลที่แท้จริงจะอยู่ตรงไหนก็ต้องศึกษาต่อไป ตอนนี้ตัวยาว 16 นิ้ว ราคาเปิดที่ 5 หมื่นบาท บางเจ้าก็ให้แสนกว่าบาท ตนไม่ขาย เพราะกว่าจะเลี้ยงมาโตขนาดนี้ใช้เวลา 5 ปี หมดจิ้งหรีดไปเท่าไหร่แล้ว อีกอย่างก็สงสารเขา เพราะคนที่ซื้อไปเขาก็คงนำมันไปฆ่าแน่

“ที่เลี้ยงไว้ก็เพราะว่าแต่ก่อนเห็นเขาฉีดยาฆ่าหญ้า แล้วตุ๊กแกก็ไปกินแมลงที่ถูกยามันก็ตาย ก็คิดว่าสัตว์เหล่านี้มันไม่มีพิษ ไม่มีภัย ไม่มีโทษ บางทีไปตามบ้านเขาก็เกลียดมัน เลยตัดสินใจนำเขามาเลี้ยงเอง ให้เขามีที่ของเขาในกรง มันก็ไม่เห็นเหม็น เวลาเขาทะเลาะกันเราก็เอาไม้ไผ่ใส่ให้แยกกันอยู่” ปู่ศล กล่าว

นายโกศล กล่าวต่อว่า ตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ส่วนที่ขึ้นป้ายว่า “รุ้งเจ็ดสีกับแก้” ซึ่งคำว่า “กับแก้” หมายถึงแก้โรคแก้ภัยแก้ความเหน็ดเหนื่อยแก้ปวดแข้งปวดขา หากใครสนใจจะเข้ามาดูและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงตุ๊กแก ตนก็ยินดีให้ความรู้ หรือโทรศัพท์มาสอบถามได้ที่เบอร์ 098-495-4545

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์