หวยหายอีก6ล้าน-ยายทำหล่นงานวัด “สามชุก” โร่แจ้งป. ถูกมือดี ฉวยขึ้นเงินแล้ว

รางวัลที่ 1 หายโผล่อีก ยายวัย 72 แจ้ง “ป.” ทำหล่นงานวัด”สามชุก” แจ้งความไว้แล้ว แต่ไม่ได้คืน ยังโดนมือดีเก็บไปขึ้นเงิน 6 ล้าน ด้านหวยอลเวงเมืองกาญจน์ ตั้งรองผบช.ภ.7 คุมสอบคดีเอง รายงานผลใน 30 วัน เพื่อตอบคำถามสังคม ปมตร.ใหญ่จุ้นคดี

จากกรณีแย่งกันเป็นเจ้าของรางวัล 30 ล้าน โดยนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เข้าแจ้งความต่อสภ.เมืองกาญจนบุรี โดยอ้างว่าถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 ได้เงิน 30 ล้านบาท แต่สลากหายไป ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลาก จนเกิดการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ซื้อและถูกรางวัลที่ 1 และต่อมา ร.ต.ท.จรูญได้ยื่นร้องต่อผบ.ตร. ให้สอบสวนนายตำรวจ 2 นายที่มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงกับพยาน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่สโมสรตำรวจ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงความคืบหน้าที่มีการกล่าวอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปพัวพันกับกรณีหวย 30 ล้าน จ.กาญจนบุรี ทำให้เกิดความไม่โปร่งใสในการทำคดีว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข รรท.ผบช.ภ.7 แล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า โดยรายงานแจ้งว่า ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหวย 30 ล้าน โดยมี พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบช.ภ.7 เป็นหัวหน้าคณะ มีกรอบระยะเวลาการทำงาน 30 วัน สำหรับสาเหตุที่ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมานั้น เพื่อตอบคำถามสังคมหลังสื่อต่างๆ นำเสนอข่าวว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องคดี ทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนขึ้นในขณะนี้

“ผบ.ตร.กำชับให้ยึดตามพยานหลักฐานเป็นหลัก ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มีความละเอียด รอบคอบ และคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด ยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ให้ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยวันนี้หัวหน้าชุดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตอนนี้เป็นการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีไปก่อน ส่วนการกล่าวหาตำรวจชั้นผู้ใหญ่กำลังพิจารณาการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส ตอบคำถามสังคมได้” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

เมื่อถามว่าจะพิจารณาให้ตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างมาช่วยราชการก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันมี ขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว สำหรับที่ผ่านมาเคยมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจในลักษณะแบบนี้ ก็ดำเนินการมาโดยตลอด ถ้าผิดก็เอาออก ไม่เคยช่วยเหลืออยู่แล้ว ต้องทำตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้การสืบสวนสอบสวนจะออกมาแล้วก็ยังไม่สามารถพูดได้ แต่ว่าขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ ซึ่งผบ.ตร.ได้เน้นย้ำไปแล้วให้ดำเนินการให้รอบคอบทุกมิติ ทั้งเรื่องของสำนวนการสอบสวน และข้อร้องเรียนต่างๆ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การที่ดึงสำนวนจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่ขึ้นมาเป็นชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน การทำงานไม่ได้เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทำเป็นคณะทุกอย่างต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน พร้อมกันนี้ ผบ.ตร.สั่งให้กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ภ.7 อยู่แล้ว เข้าไปตรวจสอบคู่ขนานกันด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์และสระแก้ว อาจจะมีพื้นที่อื่นๆ จึงให้ บก.ป.ลงไปดูในภาพรวมทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบจิตใจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง

“ฝากถึงบุคคลที่แอบอ้างนำสลากของบุคคลอื่นไปขึ้นเงิน คนทำย่อมรู้อยู่แก่ใจ ผบ.ตร.ยังได้ฝากถึงประชาชนเมื่อซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาแล้ว ให้เขียนชื่อพร้อมเลข บัตรประจำตัวประชาชนไว้ด้านหลังสลาก หรือถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า อะไรที่เป็นประเด็นที่สังคมสงสัยก็จะต้องชี้แจงตรวจสอบ ผบ.ตร.ได้กำชับแนวทางการปฏิบัติ ไม่ให้ตำรวจไปเป็นเครื่องมือทำผลประโยชน์ให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใด ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำว่าการเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต้องสร้างความเชื่อมั่นหรือเป็นตัวอย่างให้กับเด็กๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธา

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม พร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ผู้นำลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 ไปขึ้นเงิน แต่ถูกแจ้งความและอายัดเงินรางวัล ลงพื้นที่บริเวณตลาดเรดซิตี้ และบ้านพักนายตำรวจ เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุและชี้จุดต่างๆ ทั้งจุดซื้อลอตเตอรี่ จุดจอดรถ สถานที่เข้าพบนายตำรวจระดับสูง โดยทางตำรวจกองปราบปรามกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ลงพื้นที่มาดูจุดเกิดเหตุพร้อมพูดคุยสอบถามข้อมูลจากพยานต่างๆ ตามคำสั่งของพ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ที่ให้รวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ดีใจที่ตำรวจ กองปราบฯให้ความสำคัญและลงมาร่วมสืบสวนคลี่คลายคดี เชื่อว่าอีกไม่นานความจริงน่าจะปรากฏ

วันเดียวกันนี้ ที่กองปราบปราม น.ส.ประดับ จันทร์อ่วม อายุ 72 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.(หญิง) จันทนา สาตะมาน สารวัตร (สอบสวน) กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่สลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ธ.ค. 2560 หมายเลข 451005 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 6 ล้านบาทหายไป ปรากฏว่าภายหลังมีผู้นำสลากดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัลแทน

น.ส.ประดับให้การว่า ซื้อลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวจากพ่อค้าชื่อนายเปี๊ยก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ที่งานวัดแห่งหนึ่งใน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ขณะเดินอยู่ในงานกลับทำหาย จึงไปให้โฆษกงานวัดประกาศหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดนำมาคืน ก็เลยเข้าแจ้งความที่สภ.สามชุก กระทั่งทราบว่า มีคนในอ.สามชุก เป็นคนนำไปขึ้นเงิน 6 ล้านบาทจากกองสลากไปแล้ว ทั้งที่ตนจำได้แม่นว่าสลากดังกล่าวเป็นผู้ซื้อมาจริงๆ

รายงานแจ้งว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบพยาน โดยผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลอ้างว่า ซื้อสลากมาจากหลายที่ จำไม่ได้ว่าไปซื้อมาจากที่ไหน ส่วนพยานที่เป็นผู้ขายสลากยืนยันว่า น.ส.ประดับเป็นผู้ซื้อสลากจริง และยังมีหลักฐานเป็นต้นขั้วที่ได้จองซื้อเล่มสลากผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคาร กรุงไทย ก่อนนำมาขายปลีก ทั้งนี้ชุดสืบสวนกำลังหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการต่อให้รอบคอบที่สุด