หนุ่มบุรีรัมย์ยอมรับเสียงสั่นเครือ ยกมือไหว้ขอโทษผัวเมียเจ้าของหวย12ล้าน หลังผลDNAชัด(คลิป)

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 12 ธ.ค. นายวิทยา ธนทรัพย์สิน อายุ 44 ปี ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ที่เอาฉลากกินแบ่งรัฐบาลไปขึ้นเงิน พร้อมครอบครัว และนายพันธ์ศักดิ์ เสือชุมแสง อายุ 31 ปี ผู้เคยแจ้งหายล็อตเตอรี่ 12 ล้าน ได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.สมภาพ สังข์กรทอง ผกก. สภ.นางรอง บุรีรัมย์ เพื่อมาฟังผลการตรวจดีเอ็นเอ หลังจากมีข้อพิพาทกันมานานว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ ประจำงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 เป็นของใคร

โดยผู้กำกับได้เชิญทั้งสองฝ่ายมาการเจรจากันก่อนในห้องลับ เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าจะยอมความกันอย่างไร จากข้อมูลเบื้องต้น นายพันธ์ศักดิ์ยอมรับผลของ DNA ส่วนนายวิทยา ไม่ยอมรับคำขอโทษ เพราะทำให้ชื่อเสียงเสียหาย ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนขี้โกง

การเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนจะออกมาไปห้องแถลงข่าว โดยผกก.สภ.นางรอง ได้ระบุว่าผล DNA บนสลากกินแบ่งรัฐบาล กับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี ไม่มีของนายพันธ์ศักดิ์ มีเพียงของนายวิทยา ซึ่งตำรวจสรุปได้ว่า รางวัลดังกล่าวเป็นของนายวิทยา อย่างถูกต้องคือ 18 ล้านบาท

นายวิทยา ผู้ขึ้นเงินรางวัล ได้มีการสอบถามนายพันธ์ศักดิ์ ต่อหน้าสื่อมวลชน ตำรวจ ว่ายอมรับกับผลการตรวจ DNA หรือไม่ นายพันธ์ศักดิ์ได้ตอบว่ายอมรับแล้ว และอยากจะขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสลากกินแบ่งฯได้หายไปจริง ไม่มีเจตนาใส่ร้ายแต่อย่างไร และขอรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าเป็นการเข้าใจผิด

นายวิทยา บอกว่า ครั้งแรกจะทำการฟ้องฐานหมิ่นประมาท และแจ้งความอันเป็นเท็จ แต่เห็นแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจกล่าวโทษตนเองตั้งแต่แรก ประกอบกับนายพันธ์ศักดิ์ยอมรับและขอโทษ จึงไม่ขอติดใจเอาความ ให้ยุติกันเพียงแค่นี้

ขณะที่นายพันธ์ศักดิ์ ได้ออกมายอมรับว่าผลของการตรวจถือว่าเป็นที่สิ้นสุด จากที่เคยร้องขอก่อนหน้านี้ และยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ถึงแม้ในใจจะยังคิดว่าสลากที่ซื้อมาถูกก็ตาม จึงขอโทษนายวิทยา และขอโทษสังคมที่มีกระแสก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหานายพันธ์ศักดิ์ ว่าเป็นการแจ้งความเท็จ เนื่องจากมาแจ้งความว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหายไปเท่านั้น ซึ่งในบันทึกไม่ระบุกล่าวหานายวิทยา คนถูกรางวัลแต่อย่างใด ส่วนพ่อเด็กที่ถูกพาดพิงว่าลูกชายเป็นคนขโมยนั้น ไม่มีหลักฐานว่าเป็นการหมิ่นประมาท การเชิญตัวมาให้ปากคำเป็นเพียงการสืบสวนสอบสวนของตำรวจเท่านั้น

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์