พลิกวิกฤตเป็นโอกาส หลังปลาหมอสีคางดำระบาด เลยจับทำปลาร้า รสชาติแซ่บเหมือนปลาทั่วไป

ปลาหมอสีระบาดยังไร้รัฐเหลียวแล ล่าสุดเกษตรกรระทม 3 ปีปล่อยกุ้งหลายล้านตัวไม่เหลือ วิดล้างบ่อได้ปลาหมอสี 5 ตัน โชคดีโรงปลาร้าอีสานช่วยรับซื้อ

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีปัญหาปลาหมอสีคางดำระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรหลายตำบลในจังหวัดสมุทรสงคราม แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ต่อมานายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นำชิมเมนูปลาหมอสีคางดำ หวังสร้างวิกฤตให้เป็นโอกาสสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน พบว่ามีรสชาติอร่อยเหมือนกับปลาทั่วไป

ล่าสุดผู้ประกอบการโรงปลาร้าจังหวัดสกลนครทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าปลาหมอสีมีรสชาติอร่อยเหมือนกับปลาทั่วไปจึงติดต่อผ่านนายปัญญา พ่วงสำราญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา ต้องการปลาหมอสีคางดำ 10 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อนำไปทำปลาร้า

จึงประสานนายสุนทร รอดบุญช่วย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.แพรกหนามแดง มารับซื้อปลาหมอสีคางดำจากนางมยุรี มักมีสุข อายุ 53 ปี ในเนื้อที่ 50 ไร่ หมู่ 5 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา ซึ่งตัดสินใจวิดน้ำล้างบ่อหลังจากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปล่อยกุ้งกุลาดำและกุ้งขาวไป 6 ครั้ง รวมกว่า 5,000,000 ตัว หมดเงินไปหลายแสนบาท แต่ถูกปลาหมอสีคางดำกินหมด

อย่างไรก็ตาม การวิดปลาครั้งนี้ได้ปลาหมอสี 5 ตัน ซึ่งนายปัญญาและนายสุนทรจะรวบรวมปลาหมอสีจากชาวบ้านในพื้นที่ให้ครบจำนวนตามความต้องการของเจ้าของโรงปลาร้าจังหวัดสกลนครต่อไป

นายสุนทรกล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาพอเป็นข่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มาให้ความหวังชาวบ้าน แต่ก็ไม่เป็นรูปธรรม ชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนอย่างมาก เช่นบ่อของนางมยุรีแห่งนี้เลี้ยงมา 3 ปี ปล่อยกุ้งมาหลายล้านตัว แต่วันนี้ไม่เหลือกุ้ง มีปลาหมอสีคางดำเป็นจำนวนมาก แต่การวิดบ่อครั้งนี้ต้องเสียค่าแรง 30 คน คนละ 400 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเป็นเงินรวมกว่า 20,000 บาท จะรอภาคราชการเข้ามาช่วยก็ไม่ไหว จึงต้องดิ้นรนช่วยเหลือกันเอง

กระทั่งมีผู้ประกอบการทำปลาร้าที่จังหวัดสกลนครทราบข่าวความเดือดร้อนของเกษตรกรจึงเห็นใจติดต่อมารับซื้อปลาหมอสีคางดำไปทำปลาร้าในราคากิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระของเกษตรกร โดยไม่เกี่ยวกับภาคราชการแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากรมประมงรับปากชาวบ้านว่าจะรับซื้อปลาหมอสีคางดำกิโลกรัมละ 20 บาท เป็นเวลา 3 เดือน แต่ขณะนี้ก็ยังเงียบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด