เร่งจ่าย 4.8 หมื่นล้านถึงมือชาวนาเป็นของขวัญปีใหม่

นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังประชุมร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อร่วมประกาศเรื่องการร่วมขจัดความยากจน ให้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยจะทำงานเชิงรุกเข้าหาเกษตรกร ภายใน 2 สัปดาห์ จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติแผนงาน เบื้องต้นจะใช้ฐานข้อมูล จากทะเบียนคนจนของกระทรวงการคลัง ที่มีเกษตรกรจำนวน 3.96 ล้านคน ที่ยากจน และมีรายได้ 30,000-100,000 บาท/ปี

ทั้งนี้ โครงการร่วมขจัดความยากจนครั้งนี้ จะเข้าบรรเทาความเดือดร้อนด้านหนี้สินและฟื้นฟู จะสร้างพลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานเชิงรุกลงลึกในรายพื้นที่ อาทิ จังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน เป็นต้น ก่อนจะนำข้อมูลไปร่วมกับหน่วยงานอื่น เชื่อว่าจะมองเห็นภาระหนี้สินของเกษตรกรว่ามีอยู่เท่าไหร่ รวมทั้งภาระหนี้สินนอกระบบด้วย ถ้าเป็นหนี้ในระบบของธ.ก.ส. ก็จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยขอให้รัฐบาลมาช่วยด้วย

ส่วนการทำแผนฟื้นฟูการประกอบอาชีพรายบุคคล อาจจะใช้เวลา 3-5 ปี กว่าจะฟื้นตัว ทำตามแผนแล้วเกษตรกรดีขึ้นอย่างไรบ้าง และแนวทางในการแก้ไขที่รองนายกรัฐมนตรีหมายมั่น คือ จะต้องมีเอสเอ็มอีเกษตร ที่มีความรู้สามารถเข้าถึงการตลาดได้ ซึ่งเป็นหัวขบวนช่วยเกษตรกรยากจนเหล่านี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ เสนอว่า ทางกระทรวงเกษตรฯ มีสหกรณ์ที่จัดลำดับชั้นแล้วพอจะเป็นหัวขบวนช่วยเกษตรกรได้เหมือนกันอยู่ประมาณ 1,000 สหกรณ์ และยังมีวิสาหกิจชุมชน 5,000-7,000 แห่ง ในการเป็นหัวขบวนได้

ส่วนโครงการลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือกให้แก่เกษตรกร ปีการผลิต 2560/61 ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท รัฐบาลจะเร่งจ่ายเข้าถึงมือเกษตรกรภายในสิ้นปีนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อทำให้เกษตรกรมีกำลังใจ ในส่วนนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบ ว่าหากเกษตรกรที่รับเงินช่วยเหลือจากน้ำท่วมแล้ว ก็ไม่มีสิทธิ์ในโครงการ โดยจะโอนเงินให้กับเกษตรกรผ่านธ.ก.ส ถือเป็นมาตรการอัดเงินลงรากหญ้าช่วยการจับจ่าย