ไตรมาส 3 คนว่างงานพุ่ง ผลพวงน้ำท่วม-ใช้เครื่องจักรแทน

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 3 ปี 2560 ว่า อัตราว่างงานไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 1.2% มีผู้ว่างงาน 450,000 คน เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 0.9% ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ปกติ 1% หรือ 400,000 คน การจ้างงานภาคเกษตรลดลง 1.2% มาจากปัญหาน้ำท่วม นอกภาคเกษตรลดลง 1.8%

“ผู้ว่างงาน 450,000 คน เพิ่มขึ้นจากผู้ที่ทำงานมาก่อน 14.2% และผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 34.7% ซึ่งพบว่าจบการศึกษาระดับอุดมศึกษา 43.4% ขณะที่ผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนแล้วตกงานประมาณ 65% เป็นผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมปลายลงมา เป็นกลุ่มมีความเสี่ยงสูงที่จะว่างงานก่อนกลุ่มอื่น และจะหางานยากขึ้น เมื่อเทคโนโลยีมาทำงานแทนคนได้ เพราะมีต้นทุนลดลง”

สิ่งที่ต้องจับตาคือ อนาคตผู้ประกอบการจะใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องจักร มาผลิตแทนกำลังคน จะใช้แรงงานคนน้อยลง รวมถึงสาขาบริการ ค้าปลีกค้าส่ง เริ่มลดใช้แรงงานคน ใช้การซื้อขายออนไลน์แทน ขณะที่การลงทุนใหม่ๆ จะใช้เครื่องมือเครื่องจักรเป็นหลัก แรงงานในโรงงานจะน้อยลง ภาคเกษตรเริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้แทนแรงงานคน การใช้โดรนตรวจสอบพืชผล โปรยปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เป็นต้น

นายปรเมธีกล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ทำให้ราคาสุราและยาสูบบางชนิดราคาสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คนไทยลดการดื่มและลดสูบบุหรี่แม้แต่น้อย จากตัวเลขค่าใช้จ่ายบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30,786 ล้านบาท มาอยู่ที่ 31,477 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบุหรี่พิ่มขึ้นจาก 12,759 ล้านบาท มาเป็น 13,536 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทั้ง 2 ชนิดนี้ คิดเป็น 3.4% ของค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน

ข้อมูลตัวเลขดังกล่าว สวนทางข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ที่ระบุว่า มาตรการด้านภาษีและราคทำได้ง่ายที่สุดและได้ผลกับการลดการบริโภคบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด โดยระบุว่าหากราคาบุหรี่แพงขึ้น 10% จะลดการบริโภคลงได้ 4%