ทองตู้แดงไซซ์กลางส่อปิดกิจการ โอดรัฐบีบ “จดนิติบุคคล-ทำบัญชีเดียว” ดีเดย์ 1 ต.ค.

ทองตู้แดงภูธรจ๊าก สรรพากรดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ร้านทองทั่วแผ่นดินต้องเดินหน้าเข้าสู่ระบบภาษีบัญชีเดียว “สมาคมธุรกิจทองคำ” โอดมีโอกาสร้านค้าทองขนาดกลางกว่า 3 พันแห่ง ท้อใจปิดกิจการตัดปัญหา ฟาก “จิตติ” นายกสมาคมค้าทองคำ เล็งเดินสายจัดสัมมนาสร้างความเข้าใจสมาชิกร้านทองคำทำบัญชี หลังเจรจาสรรพากรไม่เป็นผล

นายชุมพล พิทยานนท์ นายกสมาคมธุรกิจทองคำ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นร้านค้าทองในต่างจังหวัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการหารือกันระหว่างกรมสรรพากรและตัวแทนของผู้ค้าทองกลุ่มต่าง ๆ ถึงเรื่องนโยบายของกรมสรรพากรที่ต้องการให้ร้านค้าจัดทำบัญชีเล่มเดียวให้ถูกต้อง รวมทั้งการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านค้าทองคำเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจในรูปบุคคลธรรมดาสู่นิติบุคคล

จนนำมาสู่ข้อสรุปที่ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ร้านค้าทองทุกแห่งในประเทศไทย จะต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบการจัดเก็บภาษีที่ถูกต้อง แม้ข้อบังคับดังกล่าวจะยกเว้นให้กับร้านค้าทองขนาดเล็กที่มียอดขายไม่สูงก็ตาม แต่ก็ถือว่ามีผลกับร้านค้าทองอื่น ๆ ที่คงต้องปฏิบัติตาม

โดยประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลให้ร้านค้าทองคำขนาดกลางที่มีจำนวนประมาณ 3 พันแห่ง หรือมีสัดส่วนถึง 55% ของร้านค้าทองทั่วประเทศที่มีจำนวนประมาณ 6-7 พันแห่ง ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะบางร้านยังไม่พร้อมที่จะเข้าสู่ระบบการจัดทำบัญชี เนื่องจากขาดประสบการณ์ เพราะดำเนินกิจการมาในลักษณะธุรกิจครอบครัวมานานแล้ว ซึ่งอาจมีผลทำให้บางร้านตัดสินใจปิดกิจการลงได้

“ร้านค้าทองขนาดเล็กที่มีสัดส่วนราว 35% และร้านค้าทองขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนราว 10% อาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่ร้านค้าทองขนาดกลาง จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลโดยตรง เพราะเข้าข่ายที่ต้องทำตามที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งไม่เข้าใจกรมสรรพากรเหมือนกันว่าทำไมต้องบังคับ ถ้าเป็นแบบนี้คือ ต้นทุนด้านการบริหารก็เพิ่มขึ้น ขายทองตอนนี้ ก็ใช่ว่าจะดีนัก แบบนี้หลายร้านอาจจะอยู่ต่อไปไม่ง่าย สู้ปิดร้านแล้วรอเอาทองมาขายใช้เองดีกว่า” นายชุมพลกล่าว

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ตนได้รับการร้องขอจากสมาชิกสมาคม ซึ่งเป็นร้านค้าทอง ให้เข้าไปเจรจากับกรมสรรพากรแล้ว แต่ยังคงได้รับการยืนยันว่าจะใช้นโยบายบัญชีเล่มเดียว และการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านทองเปลี่ยนผ่านจากบุคคลธรรมดาสู่นิติบุคคลนั้น ก็จะต้องเริ่มตามที่แจ้งไว้ เพราะที่ผ่านมาทางการได้ให้เวลากับธุรกิจค้าทองมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้สมาคมจึงจะต้องหันมาช่วยเหลือร้านค้าทอง ด้วยการจัดงานสัมมนาให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการบันทึกบัญชี เพื่อให้ผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจนี้ดำเนินกิจการต่อไปได้

“สำหรับธุรกิจที่ไม่สามารถทำได้ตามที่สรรพากรกำหนดขอไม่ตอบเพราะเป็นเรื่องที่ล่อแหลม แต่หลังจากนี้สมาคมก็จะพยายามช่วยเหลือ ด้วยการจัดสัมมนาให้ร้านค้าขนาดกลางขนาดเล็ก เพื่อให้จัดทำบัญชี และเสียภาษีนิติบุคคลอย่างถูกต้องต่อไป” นายจิตติกล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์