หลอกลงทุนเงินร้อยได้เงินล้าน รวบแก๊งตุ๋นคนจนหวังผลตอบแทนเสียหาย 70 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รองผกก.(สอบสวน) กก.6บก.ป. พร้อมกำลังเข้าจับกุม 1.นายเกียรติศักดิ์ สาแม อายุ 60 ปี ชาวจ.ยะลา 2.นายประทีป สุระเสียง อายุ 52 ปี ชาวจ.กาฬสินธุ์ 3.นายอัครเดช เลิศตระกูลทรัพย์ อายุ 29 ปี ชาวจ.ปัตตานี และ 4.นายณัฐพงษ์ อำไพ อายุ 51 ปี ชาวจ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

โดยจับกุม นายประทีป ได้ที่ห้องแถวในตลาดภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายเกียรติศักดิ์ จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 56 ม.2 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายอัครเดช จับได้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี และนายณัฐพงษ์ จับกุมได้หน้าบ้านเลขที่ 351/14 ต.คูยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้มีกลุ่มผู้เสียหายหลายสิบรายจาก จ.ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส เข้าแจ้งความว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาอ้างตัวมาจากสมาคมพัฒนาผู้มีรายได้น้อย หลอกให้สมัครสมาชิกและลงทุนในกองทุนของบริษัทแห่งหนึ่ง ราคา 350 บาทต่อหุ้น และกองทุน ราคา 1,200 บาทต่อหุ้น ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนั้นจะได้รับผลตอบแทนหลังจากครบกำหนดเวลาหุ้นละ 1 ล้านบาท แต่ก็จะถูกหักค่าภาษี 2 แสนบาท จะได้รับเงินจริง 8 แสนบาท

พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการชักชวนให้ลงทุนในแต่ละครั้ง กลุ่มผู้ต้องหาจะเกณฑ์คนให้มาร่วมเข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก และทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนนับพันคน มูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าสมัครกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำเงินไปทำธุรกิจต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน และซื้อขายสินค้า โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกในระยะเวลาแตกต่างกันไป ภายหลังรับแจ้งความ จึงได้ตรวจสอบการจดทะเบียนสมาคมดังกล่าว จนทราบว่ามีการจดทะเบียนอยู่ที่จ.กาฬสินธุ์ และตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ยังหลบหนีไปได้อีก 1 ราย

พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวอีกด้วยว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ในทางสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจน มีทั้งฝ่ายจัดสมาชิกเพื่อชักชวนให้ร่วมลงทุน ฝ่ายรับสมัครสมาชิก ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปฝากเข้าบัญชีธนาคารของนายณัฐพงษ์และนายประทีป ซึ่งหลังจากครบกำหนดคืนเงินปันผล กลุ่มผู้ต้องหาจะบ่ายเบี่ยงอ้างเหตุผลต่างๆ ว่ายังไม่ได้ ก่อนที่จะหลบหนีไป

เบื้องต้นก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลจังหวัดยะลา ดำเนินคดีต่อไป และหากมีผู้เสียหายรายใดเคยตกเป็นเหยื่อก็สามารถแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่กองปราบปราม

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์