สาวมือลั่นกดจองโรงแรมผ่านแอพเป็นแสน สุดท้ายไม่มีบุ๊คกิ้งจริงๆ แถมเงินหาย

วันที่ 6 ธ.ค. รายการดีเบตจะพาไปตรวจสอบกรณีที่มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนที่ช่อง 3 หลังกดจองห้องพักในแอปพลิเคชั่นดังพลาด และโดนหักเงินทันทีเพราะบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตไว้ โดยสูญเงินไปเกือบแสนห้า ซึ่งร้องเรียนกับทางบริษัทไปก็ไม่เป็นผล ทั้งนี้ทางผู้เสียหายและครอบครัวยังลงพื้นที่ตามข้อมูลที่ระบุไว้ ปรากฎว่าที่อยู่ที่แจ้งไว้เป็นบ้านพักส่วนตัว ไม่ใช่โรงแรมแต่อย่างไร

ภาษิต อภิญญวาท ผู้ดำเนินรายการ คุยกับ คุณสุลาวัลย์ รักชลธี (แตน) ผู้เสียหาย, คุณลัดดาวัลย์ (ผึ้ง) รักชลธี พี่สาวผู้เสียหาย และคุณถวัลย์ รักชลธี พ่อผู้เสียหาย รวมทั้ง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ


คุณแตน เล่าว่า ปกติตนใช้แอปพลิเคชั่นนี้อยู่ประจำ วันเกิดเหตุตนเข้าไปเช็คราคาโรงแรม พอเห็นโรงแรมนี้สวยดีเลยกดเข้าไปดู พอจะกดออกมือของตนไปโดนปุ่มจองและจ่ายทันที ต่อมามี SMS แจ้งเข้ามาว่าการจองเสร็จสมบูรณ์พร้อมตัดเงินผ่านบัตรเครดิต 144,393 บาททันที ตนจึงติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์ของแอปพลิเคชั่นทันที เพื่อขอยกเลิกการจองนี้ เขาก็ตอบกลับมาว่าขอรับเรื่องไว้ และขอตรวจสอบนโยบายการจองก่อน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาแจ้งว่าบุ๊คกิ้งนี้ ไม่สามารถคืนเงินได้ ซึ่งมีรายละเอียดแจ้งไว้อยู่แล้ว แต่ตนยืนยันว่าเห็นไม่รายละเอียดพวกนี้ เพราะตนไม่ได้ตั้งใจที่จะจอง แค่กดเข้าไปดู และทางแอปฯ บอกว่าจะติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับบนให้ แต่สุดท้ายเขาก็แจ้งว่าทางโรงแรมไม่สามารถคืนเงินให้ได้

ต่อมาตน และครอบครัวลงพื้นที่ไปในซอยสุขุมวิท 43 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่ระบุในบุ๊กกิ้งปรากฎว่าที่อยู่ดังกล่าวเป็นบ้านพักส่วนบุคคล ไม่ใช่โรงแรมแต่อย่างไร กระทั่งพวกตนเดินไปเรื่อยๆ จนถึงซอยสุขุมวิท 45 พบโรงแรมที่มีลักษณะคล้ายกัน แต่ชื่อโรงแรมไม่เหมือนกับในแอป พอไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้เงินจากทางแอปพลิเคชั่น ทางโรงแรมจึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีคนถ่ายรูปของโรงแรมไปแอบอ้างก็เป็นได้


ล่าสุดทางแอปติดต่อกลับมาบอกว่าขณะนี้รับทราบเรื่องแล้ว และกำลังติดต่อทางโรงแรมให้ แต่ตนได้บอกกลับไปว่าไม่คุยเลย เพราะมันเลยจุดที่ต้องมาคุยกันแล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย

ด้านทนายเกิดผล เผยว่า ต้องดูที่เจตนาของลูกค้าว่าเจตนาจะจองโรงแรมนี้จริงหรือไม่ ถ้าเขาไม่มีเจตนาเพราะทันทีที่เขารู้ตัวว่าเขาผิดพลาด เขาได้ติดต่อไปขอยกเลิก ซึ่งแบบนี้เป็นนิติกรรมที่เรียกว่าโมฆียะ คือ สำคัญผิด สามารถยกเลิกและเรียกร้องคืนได้

เราไม่รู้ว่าโรงแรมนี้มีจริงหรือไม่ แต่ทั้งหมดเกิดจากความเชื่อถือของแอปนี้ เพราะเป็นผู้ตรวจสอบและรับรองว่ามีโรงแรมนี้จริง เมื่อแอปฯ สร้างความเชื่อถือ หรือ ปิดบัง หลอกลวง ทั้งๆ ที่ไม่มีโรงแรมนี้อยู่จริง แอปพลิเคชั่นต้องรับผิดชอบ เมื่อได้เงินเขาไปจากการหลอกลวงนั้นก็เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะนำข้อมูลเท็จมาลงในเว็ปไซต์

ขณะที่คุณถวัลย์ พ่อผู้เสียหาย ระบุว่าอยากให้ทางผู้บริหารของแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และเมื่อเกิดเหตุทางเราพยายามติดต่อเจรจา ทางฝ่ายแอปฯ ก็บ่ายเบี่ยงปิดบังข้อมูล เราอยากให้สังคมรู้ว่าแอปฯ นี้ใช้ข้อมูลเท็จมาหลอกลวงประชาชน อยากให้คนอื่นระมัดระวัง
รายการดีเบต โต้เหตุผล ค้นความจริง ตอน สาวมือลั่น จองโรงแรมผ่านแอปฯ สูญเงิน1.5แสน และติดตามประเด็นอื่นได้ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 16.40 – 17.00 น. ได้ทางช่อง 33 และ ช่อง 3HD

และ

‘สาวมือลั่น จองโรงแรมผ่านแอปฯ สูญเงิน1.5แสน’ (6 ธ.ค. 60)