ทำเนียบกรี๊ด-ตู่ควักเป๋า บริจาค”ตูน”พรวด530ล.

ตูนพักต่ออีกวันตามคำสั่งแพทย์ ก่อน ออกสตาร์ตอีกครั้ง 6 ธ.ค. ที่คิงเพาเวอร์ ชื่นมื่น เข้าทำเนียบพบบิ๊กตู่ ข้าราชการรุมกรี๊ด ด้านบิ๊กตู่ ควักกระเป๋ามอบเงินบริจาคสมทบทุน ส่วนหนึ่ง แจงรายได้ประเทศไม่มากพอจะดูแล หากทำมากไป จะมีผลกระทบต่อการพัฒนา ระบุหากอายุน้อยกว่านี้จะไปร่วมวิ่งด้วย ส่วนตูนยอมรับวิ่งครั้งนี้ช้ากว่ากำหนดไปแล้ว 2 วัน เตรียมออกวิ่งอีกครั้ง 6 ธ.ค.หลังแพทย์ให้พักเพิ่ม ออกสตาร์ตที่คิงเพาเวอร์ ด้านบช.น.เตรียมแผนจัดการจราจร ไม่ให้กระทบประชาชน ขณะที่ยอดเงินพุ่งพรวด 530 ล้านบาทแล้ว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ที่ออกวิ่งตามโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งหยุดพัก รักษาอาการบาดเจ็บ เดินทางมาเพื่อเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. โดยเมื่อมาถึงพบนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เดินทางมาประชุม คสช. ที่มายืนรอมอบเงินบริจาค

ก่อนที่ตูน และครอบครัว รวมทั้งก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ แฟนสาว และคณะเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ โดยนายกฯ กล่าวชื่นชม และขอบคุณตูน ครอบครัวและทีมงานที่เสียสละและตั้งใจทำความดี และทำให้คนไทยมี ความสุข ถือเป็นวาสนาที่ได้พบกัน ที่ผ่านมา ได้ติดตามมาตลอด ตั้งแต่เริ่มวิ่ง และเคยบริจาค เงินไปแล้วครั้งที่วิ่งที่บางสะพาน ส่วนครั้งนี้ระยะทางวิ่งไกลกว่าเดิม หากไม่มีจิตมุ่งมั่นตั้งใจคงไม่มีใครวิ่งได้ขนาดนี้

“น่าชื่นใจแทนตูน คือสามารถได้ร่วมกับคนไทยทั้ง 70 ล้านคน ทำงานตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของจิตอาสา ทำงานเพื่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยอยู่ได้ คือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หน้าที่ของพวกเราทุกคนคือประชาชน ในส่วนที่สองรัฐบาลพยายามใช้กลไกขับเคลื่อนทุกอย่างของประเทศในเรื่องกลไกประชารัฐ” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ประเทศมีปัญหา มาก ซึ่งตูนเข้ามาช่วยลดปัญหาตรงนี้ โดย โรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งในโครงการรัฐบาล ก็ดูแลส่วนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่างบประมาณส่วนใหญ่ก็ต้องดูแล เรื่องประกันสุขภาพก็มีปัญหามากพอสมควร เพราะเรายังมีรายได้ ไม่มาก ถ้าให้มากไปทั้งหมดจะมีผลกระทบกับการพัฒนา แต่กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการในส่วนต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า ในช่วงรัฐบาลนี้อนุมัติงบประมาณไปยัง โรงพยาบาลต่างๆ จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ โรงพยาบาลศูนย์ส่วนใหญ่นำไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การจัดหาอุปกรณ์ ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ขาดความทันสมัย เพราะมีราคาแพง ถ้าเราใช้จ่ายในเรื่องของ คนมาก และยังไม่สามารถหาเงินได้มากพอ รัฐบาลก็มีปัญหา น่าเสียดายหากอายุน้อย กว่านี้จะไปร่วมวิ่งกับตูนด้วย สมัยก่อนก็วิ่งอยู่ทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว เพราะอายุย่างเข้า 64 แล้ว

ขณะที่ตูนขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสและให้เกียรติเข้าพบ พร้อมกล่าวว่า การวิ่งยังล่าช้ากว่ากำหนด 2 วัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และต้องพักตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งการเริ่มต้นโครงการถือเป็นความตั้งใจที่จะช่วยเหลือแพทย์และพยาบาล และไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนออกมาร่วมกันมากมายเช่นนี้ เราเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่พวกเราทั้งหมดอยากจะทำ โดย จะทำให้เต็มที่มากที่สุดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สุดท้ายมันจะเล็กหรือใหญ่ก็ให้เป็นเรื่องธรรมชาติ

“ผมดีใจมาก การวิ่งครั้งนี้ตลอดเส้นทางเริ่มจากเบตง มีแต่รอยยิ้มของคนไทย และเห็นความสุขของคนไทย เด็กบางคนนำกระปุกออมสินที่หยอดมาทั้งปีมาช่วย ผมว่ามันสวยงามและยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่เห็นผมเป็นแรงบันดาลใจ สิ่งที่ได้มามันมากกว่าการช่วยเหลือโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพราะสามารถรวมจิตใจในการให้ของคนไทย ถือเป็นความงดงามที่หาไม่ได้ ขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสเข้าพบในครั้งนี้ ผมและทีมงานขอฝากนายกฯ กราบขอบคุณคนไทยทุกคนที่ออกมาช่วยกัน ซึ่งทั้งหมดได้ตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท เดิมเรา ตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากได้เงินจำนวนน้อยๆ จากคนจำนวนเยอะๆ มากกว่าจะได้เงินจำนวนเยอะๆ จากคนจำนวนน้อยนิดเดียว” ตูนกล่าว และว่า ความจริงจะพักวันนี้เพียงวันเดียว แต่คณะแพทย์ขอร้องให้พัก 2 วัน

จากนั้นนายกฯ นำเงินส่วนตัวใส่ซองปิดผนึกโดยไม่เปิดเผยจำนวน รวมทั้งเงินบริจาคของทำเนียบรัฐบาล และของที่ระลึกมอบให้ตูน ครอบครัว และทีมงาน ก่อนจะเดินจูงมือตูนออกมาส่ง และกล่าวทิ้งท้ายว่า คนที่ทำเนียบ รอตูนมากกว่าตนเองอีก โดยเฉพาะสาวๆ ก้อยอย่าหึง ซึ่งตนไม่ได้อิจฉาตูนที่มีคนรักจำนวนมาก ใครอยากจะมา อยากจะรักได้เชิญ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าเหยียบเท้าตูน

ตูนกล่าวภายหลังเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ว่า นายกฯ ขอเป็นกำลังใจให้ตนและทีมงานทำต่อไป ซึ่งนายกฯ บอกว่าถ้าเหนื่อยขอให้พักบ้าง และขอให้ทำภารกิจสำเร็จ เมื่อถามว่าการได้มาพบรัฐบาลวันนี้ได้ขอให้ช่วยเหลืออะไรหรือไม่ นายอาทิวราห์กล่าวว่า นายกฯ ได้แสดง ความห่วงใยมาตลอดและให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้มาตลอดทางอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ทีมแพทย์ขอให้ตูนพักผ่อนเพิ่มอีก 1 วัน จึงขอเลื่อนการวิ่งส่งต่อ จากเดิมวันที่ 5 ธ.ค. เป็นวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 03.00 น. ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

ที่บช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ฐานะรับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกจราจรให้กับทีมงานก้าวคนละก้าว นำโดยตูน ที่จะวิ่งออกจาก กทม.ช่วงเช้ามืดวันที่ 6 ธ.ค. ว่า จากที่ได้ประชุมกับคณะทำงานของตูน ล่าสุดวันที่ 6 ธ.ค.เวลา 04.00 น. วิ่งออกจากคิงเพาเวอร์ ใช้เส้นทางแยกพญาไท-ถนนศรีอยุธยา ไปจนถึงแยกหน้าพระลานพระราชวังดุสิต แวะสักการะ พระบรมรูปทรงม้า จากนั้นวิ่งเข้าถนนราช ดำเนินนอก ไปจนถึงแยกผ่านฟ้าฯ เลี้ยวขวาเข้าราชดำเนินกลาง ไปจนถึงหน้าร้านอาหาร สกายไฮ ก่อนถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ เบี่ยงขวาเข้าแยกผ่านพิภพ ขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ลงสะพานพระปิ่นเกล้าเข้าถนนอรุณอมรินทร์ แวะทำกิจกรรมที่โรงพยาบาลศิริราช ออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปทางถนนบรมราชชนนี เลี้ยวซ้ายไปแวะพักจุดแรกที่ห้างสรรพสินค้าเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า ภายในเวลา 09.00 น. หลังจากนั้นใช้ถนนบรมราชชนนีขาออกไปจนถึงวงแหวนกาญจนาภิเษก เลี้ยวขวาถนนกาญจนาภิเษกออกแยกบางบัวทอง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจุดใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 12.00 น. ตูนพร้อมขบวนวิ่งตามจำนวน 300 คนจะวิ่งออกจากกรุงเทพ มหานครทั้งหมด

พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนการจราจรจะติดขัดหรือไม่นั้น ในช่วงต้นของการวิ่งยังพอรับได้ และการที่วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรไว้พร้อมทุกทางแยกจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้ แต่ในช่วงแยกผ่านพิภพลีลาอาจจะต้องวิ่งสวนกับรถที่เข้าเมืองมากหน่อย เพราะช่วงเช้าวันธรรมดารถที่มาจากฝั่งสะพานพระปิ่นเกล้าค่อนข้างมาก อาจมีการชะลอตัว ซึ่งต้องคุยกับทีมงานให้บีบขบวนให้สั้นลง เพื่อข้ามทางแยกให้เร็วขึ้น ทั้งนี้บนถนนราชดำเนินตนเป็นห่วงบริเวณแยกผ่านฟ้าฯ ถึงแยกผ่านพิภพ มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น และวงเวียนอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยจะมีโรงเรียนสตรีวิทยา ช่วงเช้าอาจมีนักเรียนและผู้ปกครองออกมาให้กำลังใจ จึงขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนอย่าชะลอรถในเส้นทางเดียวกับที่ตูนวิ่ง หรือในเส้นทางสวนกัน หากทำตามคำแนะนำการจราจรก็จะเคลื่อนตัวได้อย่างสะดวกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดยอดเงินบริจาคของตูนพุ่งสูงเกิน 530 ล้านบาทแล้ว